BLOG

ถ้าจะนับจริงๆ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของการมาจังหวัดโอคายามะ ครั้งแรกของการมาที่นี่คือ เมื่อปี ค.ศ. 2017 ตอนนั้นได้มีโอกาสไปสวนลูกพีชขาว ปราสาทโอคายามะ และสวนโอคายามะโคราคุเอน พอพูดถึงจังหวัดโอคายามะ หลายคนก็คงนึกถึงสถานที่เหล่านี้ เหมือนเป็นไฮไลต์ที่ต้องไปเยือน…

การมาจังหวัดโอคายามะในรอบ 8 ปี แน่นอนว่าหลายสิ่งหลายอย่างคงเปลี่ยนไปแล้วเป็นแน่ การเดินทางมาโอคายามะในครั้งนี้จุดเริ่มต้นค่อนข้างแปลกใหม่เลยทีเดียว

ครั้งนี้ได้บินภายในจากสนามบินฮาเนดะ มาลงที่สนามบินโอคายามะโมโมทาโร่เลย สะดวกสบายเสียจริง

ระหว่างที่นั่งเครื่องบินก็ได้ยินเสียงประกาศจากกัปตัน ว่าทางซ้ายมือของทุกท่านนั้นมีภูเขาไฟฟูจิอยู่นะจ๊ะ มองดูสิจ๊ะ โชคดีที่นั่งติดหน้าต่างฝั่งนั้นพอดี เลยได้เห็นภูเขาไฟฟูจิอันเบ่อเริ่ม ภูเขาไฟในใจของใครหลายๆ คน ที่ครั้งหนึ่งอยากจะเห็นให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต



ขณะที่กำลังลอยอยู่เหนือเมฆก็นึกย้อนไปในปี ค.ศ. 2017…ความทรงจำเริ่มจางตามกาลเวลาที่ล่วงเลย การมาครั้งนี้เหมือนเป็นการเริ่มต้นการเก็บแคปซูลความทรงจำใส่ลงไปในขวดโหลอันว่างเปล่าอีกครั้ง

ว่ากันว่าภาพแรกที่เห็นจะติดตาเราได้ยาวนานที่สุด เหมือนความประทับใจแรกที่มีต่อสิ่งนั้นๆ มักจะสร้างภาพจำให้สิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว

จังหวัดโอคายามะได้ฉายาว่า “ดินแดนแห่งแสงตะวัน” (Okayama, the land of sunshine) เพราะมีอากาศและแสงแดดที่อบอุ่นตลอดทั้งปี

จากโตเกียวนั่งเครื่องบินในประเทศใช้เวลาเดินทาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เผลอแผล็บเดียว ล้อเครื่องบินก็ค่อย ๆ กระทบกับพื้นรันเวย์ที่สนามบินโอคายามะโมโมทาโร่…แค่ชื่อก็กินขาด


สนามบินขนาดกะทัดรัดกำลังดี เดินนิดเดียวก็ถึงรางรอรับกระเป๋า จากจุดที่รอรับกระเป๋าก็มีเพียงกระจกใสกั้นกลาง สามารถมองเห็นข้างนอกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และเช่นเดียวกันข้างนอกก็มองเห็นข้างในได้อย่างทะลุปรุโปร่ง


ระหว่างรอกระเป๋าก็เห็นป้ายที่มีชื่อเราบนนั้น…
ช่างสมฉายาของจังหวัดเสียจริง
การต้อนรับช่างอบอุ่นและเป็นมิตรเช่นเดียวกับแสงอาทิตย์ Land of sunshine สมชื่อ

ที่สนามบินนอกจากเจ้าหน้าที่แล้วโมโมทาโร่และผองเพื่อนก็ต้อนรับเราอย่างเป็นมิตรไม่แพ้กัน



🤔💭 ว่าแต่จังหวัดโอคายามะและโมโมทาโร่มีความสัมพันธ์กันอย่างไรนะ?

เมื่อพูดถึงจังหวัดโอคายามะ หลายคนคงนึกถึงบ้านเกิดของ “โมโมทาโร่” นิทานพื้นบ้านชื่อดังของญี่ปุ่น เรื่องราวของเด็กชายที่เกิดจากลูกท้อที่ได้รับการเลี้ยงดูจากสองตายายจนเติบใหญ่ โมโมทาโร่เป็นคนดี และมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง วันหนึ่งโมโมทาโร่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับยักษ์นิสัยไม่ดี จึงได้อาสาออกไปปราบยักษ์ ระหว่างทางโมโมทาโร่ได้พบกับสหายทั้งสาม ได้แก่ สุนัข ลิง และไก่ฟ้า เมื่อมาถึงเกาะยักษ์หรือโอนิกะจิมะ ((ว่ากันว่าคือเกาะเมงิจิมะ ในจังหวัดคางาวะ)) โมโมทาโร่และผองเพื่อนก็ได้สู้กับเหล่ายักษ์จนเหล่ายักษ์พ่ายแพ้ ยักษ์ได้ยกสมบัติที่ชิงมาทั้งหมดให้กับโมโมทาโร่เพื่อแลกกับชีวิต โมโมทาโร่นำสมบัติกลับไปยังหมู่บ้านของเขาและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

📖 แล้วนิทานพื้นบ้านโมโมทาโร่เกี่ยวข้องกับโอคายามะอย่างไรล่ะ?

ในบทความและงานวิจัยด้านงานเขียนได้มีการวิเคราะห์เนื้อเรื่องของนิทานโมโมทาโร่ไว้อย่างหลากหลาย ซึ่งส่วนหนึ่งได้กล่าวถึงว่า โมโมทาโร่นั้นมีเค้าโครงมาจากตำนานยักษ์แห่งอุระ (温羅伝説) ที่ถูกคิบิสึฮิโคะโนะมิโคะโตะ (吉備津彦命) ปราบ ซึ่งตำนานนี้ปรากฏในโคจิกิ (古事記) งานเขียนเก่าแก่ของญี่ปุ่น ฉากของตำนานเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองคิบิ ในจังหวัดโอคายามะ

นิทานพื้นบ้านโมโมทาโร่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ทำให้นิทานพื้นบ้านโมโมทาโร่มีบทบาทในการทำให้จังหวัดโอคายามะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นแทนที่ตำนานการปราบยักษ์อุระ

สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของจังหวัดโอคายามะล้วนมีการกล่าวถึงโมโมทาโร่ พร้อมกับเล่าฉากตำนานยักษ์แห่งอุระประกอบไปด้วย

“สนามบินโอคายามะโมโมทาโร่” สามารถสัมผัสได้ถึงความนิยมของโมโมทาโร่ได้ตั้งแต่ชื่อสนามบิน ภายในสนามบินก็มีสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโมโมทาโร่ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะบนกระจกแก้ว (Stained Glass) รูปโมโมทาโร่และผองเพื่อน ป้ายต้อนรับต่าง ๆ สินค้านานา และรูปปั้นโมโมทาโร่พร้อมสหายทั้งสาม







แม้แต่รางรอรับกระเป๋าก็มีโมโมทาโร่ออกมาจากลูกท้อโผล่ออกมาต้อนรับ ช่างอบอุ่นเสียจริงค่ะ


ว่าแล้วก็ออกไปตามรอยโมโมทาโร่กันเถอะ🍑!


===================================
🛬 ข้อมูลการเดินทางไปยังจังหวัดโอคายามะโดยเครื่องบิน
https://www.okayama-airport.org/en/
📖 ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดโอคายามะ
https://www.okayama-japan.jp/th/