BLOG

บทความ

ดินแดนพิศวงใต้ดิน

ดินแดนพิศวงใต้ดิน

ใครจะไปรู้ว่าจุดที่เรายืนอยู่ตอนนี้ข้างใต้อาจจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ก็ได้ . . .

หากพูดถึงเมืองอุทสึโนะมิยะ จังหวัดโทจิกิ จะนึกถึงอะไรเป็นอย่างแรกคะ ?
อาจจะเป็นอาหารขึ้นชื่ออย่าง “เกี๊ยวซ่า” ที่โด่งดังไปทั่วประเทศถึงขนาดได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเกี๊ยวซ่าเลยทีเดียว


แต่นอกจากจะมากินเกี๊ยวซ่าแล้ว ที่นี่มีอะไรน่าสนใจอีกบ้างนะ ?
สำหรับใครที่อยากได้สถานที่ท่องเที่ยวไม่ซ้ำใคร อยากไปผจญภัยในที่ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจล่ะก็… ห้ามพลาดเลยค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวอันมีเสน่ห์ลึกลับ รอให้ทุกคนมาค้นหา เจาะลึกไปจนถึงใต้ดิน


ณ ตำบลโอยะ เมืองอุทสึโนะมิยะ จังหวัดโทจิกิ มีสิ่งขึ้นชื่อคือ “หินโอยะ” ซึ่งตั้งแต่ในสมัยก่อนได้ถูกใช้เป็นป้ายหินหลุมศพ และเมื่อเข้าสู่ยุคเอโดะก็ได้นำมาใช้เป็นวัสดุในการสร้างอาคารสถาปัตยกรรมมากขึ้น เนื่องด้วยประสิทธิภาพอันโดดเด่นในการรองรับการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวและป้องกันไฟ ที่ได้ค้นพบเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตะวันออกของญี่ปุ่นเมื่อปี 1923


แรกเริ่มการขุดเจาะหินโอยะยังใช้เพียงกำลังคนและพลั่วเท่านั้น หินก็ได้มาเพียงเล็กน้อย แค่ 12 ชิ้นต่อวันเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มมีการนำเครื่องทุ่นแรงหรือเครื่องจักรเข้ามาใช้มากขึ้น ทำให้ตำบลโอยะแห่งนี้ มีเหมืองหินโอยะขนาดใหญ่ ที่ปัจจุบันกินพื้นที่ไปกว่า 20,000 ตารางเมตร และจุดที่ลึกที่สุดลึกลงไปใต้ดินถึง 60 เมตรเลยทีเดียว และข้างล่างนี้ได้ส่งออกหินออกไปภายนอกถึง 10 ล้านชิ้น สู่ญี่ปุ่นตะวันออก รวมถึงไปยังโตเกียวอีกด้วย

ด้วยประสิทธิภาพที่เหมาะแก่การสร้างอาคารในหลากหลายรูปแบบ จึงถูกนำไปสร้างเป็นบ้าน โรงงาน โกดังเก็บของ ผนังกันไฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงสถานที่โด่งดังอย่างโรงแรมอิมพีเรียลโตเกียว (Imperial Hotel Tokyo / 帝国ホテル東京)
แต่หลังจากนั้น มีการนำเข้าวัสดุใหม่และราคาถูกในการสร้างอาคารเข้ามามากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมหินโอยะได้ถดถอยลง แต่ยังเหลือความยิ่งใหญ่เอาไว้ให้เราได้ชมและศึกษากัน อย่าง “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอยะ” (Oya History Museum / 大谷資料館) นี่เองค่ะ


เมื่อเดินทางเข้าใกล้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของหินโอยะที่อยู่รอบตัว เหมือนเข้ามาในอาณาจักรหินเลยทีเดียว เข้ามาถึงก็จะพบกับ “เจ้าแม่กวนอิม” ที่สร้างด้วยหินองค์ใหญ่สูงถึง 27 เมตร ยิ่งใหญ่และน่าตื่นตาตื่นใจมากค่ะ


ก่อนที่เราจะเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ ก็จะผ่านสวนสาธารณะที่มีหน้าผาหินสูงใหญ่และผิวขรุขระที่มีมนต์เสน่ห์บางอย่างทำให้ขนลุกขึ้นมาเลยค่ะ




มาถึงบริเวณหน้าทางเข้าของพิพิธภัณฑ์ ก็จะพบกับคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ อาคารพิพิธภัณฑ์ สามารถมาแวะนั่งพักผ่อนก่อนหรือหลังเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ได้ค่ะ


เมื่อเข้ามาในอาคารพิพิธภัณฑ์ก็จะพบกับการจัดแสดงต่าง ๆ รวมถึงจุดขายของฝากเกี่ยวกับหินโอยะที่น่าซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกมากค่ะ และจะพบกับทางเดินพาเราลงไปใต้ดินกันค่ะ





ยิ่งเดินลึกลงไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่เกินจินตนาการ



ความสูงของกำแพงหินและแพทเทิร์นลวดลายของพื้นผิวที่แสดงให้เห็นถึงหินเป็นล้าน ๆ ชิ้นที่ถูกตัดออกไป จนทำให้พื้นที่ข้างใต้นี้กลายเป็นโถงกว้างขนาดใหญ่เกินที่คาดคิดไว้ซะอีกค่ะ



ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็ยิ่งได้รับไอความเย็นจากบริเวณนี้ ว่ากันว่าข้างใต้นี้จะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน ก็จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 8 องศาเท่านั้น ใครที่ขี้หนาวก็อย่าลืมพกเสื้อกันหนาวไปด้วยนะคะ

เหมืองเก่าแห่งนี้นอกจากจะกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราได้ศึกษาเรื่องหิน ยังกลายมาเป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะ คอนเสิร์ต แสดงโชว์ หรือละครโนด้วยเช่นกัน

ระหว่างที่เดินไปเรื่อย ๆ ก็จะพบกับบางจุดที่กลายเป็นที่ตั้งของงานศิลปะ หรือบางมุมที่ถูกจัดแต่งด้วยไฟระยิบระยับสวยงามให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันตลอดทั้งทาง อีกทั้งยังมีมุมที่จัดแสดงภาพถ่ายของผลงานต่าง ๆ ที่มาถ่ายทำที่เหมืองใต้ดินแห่งนี้อีกด้วย









ไม่ว่าจะมองไปมุมไหน สถานที่นี้ก็มีเสน่ห์อย่างแปลกประหลาดค่ะ ยิ่งใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปรับรองว่าจะเพลิดเพลินแน่นอน ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมดเลยค่ะ

นอกจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอยะที่ให้เราไปเดินสำรวจกันแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างการทัวร์เหมืองหินด้วยค่ะ โดยจะพาทุกคนไปล่องเรือชมความงามภายในถ้ำในทริป “OHYA Underground” การท่องเที่ยวสุดแปลกใหม่







ระหว่างทางที่จะไปล่องเรือก็จะผ่านซากของการทำเหมืองหินที่น่าตื่นตาตื่นใจ ความยิ่งใหญ่อลังการของเหมืองนี้สุดจะจินตนาการจริง ๆ ค่ะ ระหว่างทางก็สามารถแวะถ่ายรูปเท่ ๆ สนุก ๆ กันก็ได้เช่นกันค่ะ ^^


เมื่อเดินมาถึงจุดขึ้นเรือ บรรยากาศแอบน่ากลัวพิลึก แต่ก็น่าเข้าไปค้นหาเช่นกัน



เราจะเข้าไปสำรวจเหมืองใต้ดินที่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำ โดยใช้เรือยางนั่งเข้าไปในความมืด ถือเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้แน่นอนค่ะ ซึ่งปกติจะปิดไม่ให้เข้า จึงจำเป็นต้องมากับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นค่ะ



ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์กันได้ค่ะ
Website: http://ohyaunderground.jp/en/


เป็นสิ่งก่อสร้างใต้ดินที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และลึกลับน่าค้นหาอีกแห่งที่ควรมาเยือน ในจังหวัดโทจิกิค่ะ รับรองว่าจะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครแน่นอน