BLOG
บทความ
ความเป็นญี่ปุ่นที่ทุกคนเคยมีโอกาสได้สัมผัสมาเป็นแบบไหนกันบ้างคะ ? ความเป็นญี่ปุ่นที่สัมผัสได้ผ่านอาหารการกิน, สื่อบันเทิงอย่างรายการโทรทัศน์, ซีรีส์, เพลง, และการ์ตูน รวมไปถึงการท่องเที่ยวนั้นคงเป็นสิ่งที่หลายคนมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และน่าจะเป็นคำตอบที่ได้รับจากผู้อ่านหลาย ๆ คน วันนี้จึงมีเรื่องราวความเป็นญี่ปุ่นในอีกรูปแบบมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งก็คือ “การทำงานกับคนญี่ปุ่น” ค่ะ โดยที่เขียนมาจากมุมมองและประสบการณ์ของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ค่ะ อาจไม่ใช่รูปแบบของการทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ในประเทศญี่ปุ่น แต่คิดว่าน่าจะพอทำให้หลาย ๆ คนได้เห็นภาพและสัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่นในอีกแง่มุมได้ประมาณหนึ่งเลยล่ะค่ะ
ถ้านับวันนี้ด้วย ก็เข้าสู่วันที่ 10 ของการฝึกงานที่บริษัท Kori Planning แล้วค่ะ บริษัทของคนญี่ปุ่น (ที่พูดภาษาไทยเก่งมาก) ซึ่งมีทั้งสาขาในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านโครินะคะ” นี่คือข้อความที่พี่ชิส่งมาให้ในวันที่ฉันกำลังจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเล็ก ๆ สุดวิเศษนี้ เป็นการต้อนรับที่แสนอบอุ่นและน่าจดจำมากเลยค่ะ นี่คงเป็นการอยู่กันแบบครอบครัวของบริษัทญี่ปุ่นที่เขาว่ากันสินะ จุดเริ่มต้นของบทความนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มต้นมาจากตรงนี้นี่แหละค่ะทุกคน
ครอบครัวโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นมีการนับลำดับชั้นและอาศัยอยู่ร่วมกันโดยใช้ระบบอาวุโส ถ้าเปรียบกับบริษัทญี่ปุ่น ผู้อาวุโสที่น่าเคารพนับถือของบ้านก็คงจะเป็นเจ้านายหรือผู้มีอายุและประสบการณ์ที่มากกว่า ส่วนบทบาทลูกที่นอบน้อมและเชื่อฟังก็คงจะเป็นของพนักงานค่ะ ซึ่งระดับความเข้มข้นของระบบอาวุโสจะมากหรือน้อยนั้นอาจต่างกันไปตามแต่ละบริษัท ส่วนที่ครอบครัวโคริสำหรับฉันแล้วนั้น มีพี่ชิและพี่กุ้งที่บางเวลาก็รับบทบาทเป็นคุณแม่ของครอบครัว บางเวลาก็รับบทบาทเป็นพี่สาวคนโต พี่ยูมิเป็นคุณน้า ส่วนพี่แนน พี่เฟิร์น และน้ำอบ (ฉันเอง) รับบทบาทเป็นลูกสาวและน้องสาวของบ้านค่ะ
บ้านโคริเป็นครอบครัวที่มีความหลากหลายค่ะ มีคุณแม่และพี่สาวที่เป็นทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทย, คุณน้าคนญี่ปุ่น, ลูกสาวคนไทยที่พูดภาษาไทยเป็นหลักแต่พูดญี่ปุ่นได้, ลูกสาวคนไทยที่พูดภาษาไทยได้อย่างเดียว และญาติคนญี่ปุ่นท่านอื่น ๆ ถูกต้องแล้วล่ะค่ะ! บ้านหลังนี้พูดทั้งภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่นปนๆกันค่ะ และบ้านหลังนี้มักจะมีแขกแวะมาเยี่ยมเยียนกันอย่างไม่ขาดสาย ดูแล้วช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากเลยใช่ไหมคะ
เรื่องพื้นฐานแต่สำคัญยิ่งอีกอย่างของการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว ก็คือการมีข้อตกลงและกฎในการอยู่ร่วมกัน เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ไม่อย่างนั้นแล้วการอยู่ร่วมกันคงจะเป็นเรื่องยากสักหน่อยว่าไหมคะ ? และอย่างที่คนไทยพอจะได้ยินกันมาบ้างก็คือคนญี่ปุ่นค่อนข้างที่จะเคร่งครัดต่อกฎต่าง ๆ ในขณะที่คนไทยจะมีความยืดหยุ่นในเรื่องนี้มากกว่าหน่อยค่ะ แต่ที่สุดแล้วอะไรจะมากน้อยแค่ไหนนั้นก็คงอยู่ที่ความพอดีและเหมาะสม อยู่ในระดับที่ไม่ทำให้บรรยากาศในครอบครัวตึงเครียดจนเกินไปก็น่าจะถือว่าเป็นอันใช้ได้ค่ะ
โดยปกติแล้วสมาชิกแต่ละคนในครอบครัวจะมีบทบาทและหน้าที่เป็นของตัวเอง แล้วก็มีกิจกรรมบางอย่างที่หากทำร่วมกันก็น่าจะดีกว่าด้วยใช่ไหมคะ ? นอกจากนี้สมาชิกแต่ละคนก็ควรรู้ในส่วนของสมาชิกคนอื่นบ้างเล็กน้อย เพื่อที่จะสามารถทำหน้าที่แทนกันได้ในยามจำเป็นค่ะ ถือว่าเป็นข้อดีที่ทำให้ได้ลองและรู้ว่าสมาชิกแต่ละคนทำสิ่งไหนได้ดีบ้าง และไม่ถนัดในการทำสิ่งไหนบ้าง เหมาะกับที่จะรับดูแลหน้าที่ตรงไหน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคต โดยบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งจะค่อนข้างเน้นการทำงานเป็นทีม และเปิดโอกาสให้สมาชิกแต่ละคนได้ลองทำงานที่หลากหลายค่ะ
การมีครอบครัวที่ดีและอบอุ่นคงเป็นหนึ่งในความปรารถนาของใครหลายคนใช่ไหมคะ ? ว่ากันว่าครอบครัวที่ดีนั้น จะมีได้ย่อมเกิดมาจากการที่สมาชิกในครอบครัวต่างมีเป้าหมายอันเป็นหนึ่งเดียว รวมไปถึงการให้เวลาและให้ใจกันค่ะ ในการทำงานบริษัทนั้น เมื่อมองว่าบริษัทคือครอบครัวที่ทุกคนรักและผูกพัน ในเวลาไม่นานสมาชิกเหล่านั้นก็น่าจะมองเห็นจุดหมายเดียวกัน อยากช่วยกันทำออกมาให้ดีด้วยความตั้งใจ และเดินไปข้างหน้าด้วยกันค่ะ และเท่าที่รู้มาก็คือคนญี่ปุ่นจะมีความตั้งใจ และทุ่มเทให้กับเรื่องงานมากเลยล่ะค่ะ
คงเป็นธรรมดาของคนในครอบครัวซึ่งมีความหวังดีต่อกันที่จะอยากเห็นคนที่เรารักและห่วงใยได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับการทำงานในบริษัทแบบญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ผู้อาวุโสอยากจะเห็นความเติบโตและพัฒนามากขึ้นของสมาชิกแต่ละคนในครอบครัวด้วยเช่นกันนั่นเองค่ะ
ส่วนเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากความเป็นครอบครัวที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่น่าสนใจ เช่น เรื่อง time zone ค่ะ ในบางบริษัทที่มีทั้งสาขาในประเทศญี่ปุ่นด้วยและต่างประเทศด้วยนั้น อาจมีการปรับเวลาการเข้างานและเลิกงานให้ตรงกับ time zone ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อความสะดวกในการติดต่อระหว่างกัน และการติดต่อหน่วยงานอื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่นก็เป็นได้ค่ะ ซึ่งหมายความว่าถ้าทำงานบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยก็จะต้องเข้างานเช้ากว่าบริษัททั่วไป แต่เท่ากับว่าเราจะได้เลิกงานไวกว่าบริษัทอื่น ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ และน่าจะเป็นเรื่องดีที่เราได้ตื่นเช้าอย่างเป็นประจำด้วยค่ะ
อีกเรื่องที่ขาดไม่ได้เลยหากจะพูดถึงคนญี่ปุ่นหรือความเป็นญี่ปุ่น ก็คือความตรงต่อเวลาของคนญี่ปุ่นค่ะ โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องของการทำงานแล้วล่ะก็ คงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกับใครหรือตำแหน่งไหนก็ตาม
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์แบบครอบครัวที่เกิดขึ้นในบริษัทนั้นจะไม่ใช่ครอบครัวที่เกี่ยวข้องกันโดยสายเลือดเหมือนครอบครัวจริงๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหนก็ตาม จะดำเนินไปได้ดีได้ล้วนแล้วแต่ต้องการเวลา ความเอาใจใส่ และความทุ่มเท ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือไทย ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็คงเป็นเรื่องของความเป็นมนุษย์ด้วยกันมากกว่าสินะคะ นึกถึงใจของเขาและใจของเรา แล้วทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปได้ด้วยดีค่ะ
ถ้าอ่านจนถึงตรงนี้แล้วอยากมาสัมผัสความเป็นญี่ปุ่น ด้วยการแวะเข้ามาเยี่ยมเยียนบ้านโคริหลังนี้ในฐานะแขกผู้มาเยือน พวกเรายินดีต้อนรับเสมอนะคะ มาร่วมงานกันค่ะ !
คิดถึงไทย คิดถึงญี่ปุ่น ก็คิดถึงโคริกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ