BLOG
บทความ
ทุกครั้งก่อนออกเดินทางไปญี่ปุ่นหลายคนจะวางแผนไว้ล่วงหน้าใช่ไหมคะ
บางครั้งก็มีการผิดแผนไปบ้างใช่ไหมล่ะ
ถ้าลอง ‘ออกนอกลู่นอกทาง’ ดูบ้างก็ฟังดูไม่เสียหายใช่ไหมคะ
การเดินทางนอกลู่นอกทางในครั้งนี้เกิดขึ้นในฤดูร้อน เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 เมื่อตอนไปถ่ายทำเก็บภาพกับศิลปินและช่างภาพคุณติ้ว วศินบุรี ที่ฟุกุชิมะในฤดูร้อน ขณะที่เรากำลังเข้าพักที่โรงแรมเมาท์อิน (Mt. inn) ในย่านดาเคะออนเซ็น (Dake Onsen) คุณติ้วก็เหลือบไปเห็นโปสเตอร์ใบหนึ่ง ภาพภูเขาที่ดูคล้ายกับแอ่งกระทะ เมฆขาวปุกปุยลอยอยู่ด้านบนสวยงามเสียจริงค่ะ คุณติ้วเลยบอกว่า “สวยมาก อยากลองไปที่นี่จัง…” เมื่อคุณซูซุกิเจ้าของโรงแรมผู้รักการปีนเขาเป็นชีวิตจิตใจได้ยินเช่นนั้น จึงจัดแจงหาผู้นำทางให้และปรับโปรแกรมของวันพรุ่งนี้ให้เหมาะสม…
การเดินทางนอกลู่นอกทางจึงได้เริ่มต้นขึ้น…
ก่อนจะไปปีนเขาอาดาตาระ (Mt. Adatara) คุณซูซุกิพาพวกเราแวะที่ร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้านเพื่อซื้อเสบียงมื้อเที่ยงและน้ำติดไปด้วย และด้วยอากาศที่ร้อนระอุ น้ำจึงสำคัญเช่นกัน แต่กินมากไปก็อาจจะลำบากได้เช่นกัน
เมื่อถึงทางขึ้นกระเช้าโรปเวย์เราได้พบกับผู้นำทางของเราในครั้งนี้นั่นก็คือ คุณคาโต้ พวกเรานั่งกระเช้าโรปเวย์ไปยังด้านบนหมอกสีขาวหนา เมฆครึ้มอากาศค่อนข้างอึมครึมพอสมควร ฝนจะมาไหมหนอ…
สิ้นสุดเส้นทางที่สะดวกสบายจากนี้ไปได้เวลาเดินเท้าแล้ว
ก่อนจะออกเดินทางก็เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยเพราะเราจะเดินยาวๆ กว่า 4 – 5 ชั่วโมง
ต้นสนและแมกไม้สีเขียวชอุ่มเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายดีเสียจริงๆ ค่ะ
ทางเดิน (?) เป็นดินและหินสลับกันไป แห้งบ้างชื้นบ้างน่าตื่นเต้นดีนะคะ เพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าเส้นทางจะเป็นอย่างไร ไม่เคยเห็นภาพระหว่างทางใน G_ _ gl_ หรือ SNS ต่างๆ เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนค่ะ และภาพที่ลงส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพสถานที่หลักหรือไฮไลท์ของที่นั้นๆ
เส้นทางที่เราเดินไปนั้นบางจุดก็เป็นที่ราบเดินสบาย บางจุดก็เป็นกรวดหินเดินลำบากเล็กน้อย
บางจุดก็เป็นเนินหินที่เราต้องปีนไต่ขึ้นไป
เมื่อได้ยินเสียงท้องที่ร้องบอกเวลาราวกับนาฬิกา พวกเราหาจุดทำเลที่เหมาะสมเพื่อเติมพลังก่อนจะออกเดินทางต่อ อาหารกลางวันเป็นข้าวปั้นที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ… แต่แล้วผู้นำทางของเรา… เปิดกระเป๋าแล้วหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำออกมา พร้อมเทน้ำร้อนที่ใส่ในกระติกมาเสิร์ฟให้ทุกคน รู้สึกประทับใจและขอนับถือความพยายามของคุณลุงเลยล่ะค่ะ
ได้ซดบะหมี่ร้อนๆ เข้าไปรู้สึกสดชื่นมากค่ะ อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยค่ะ ยังไม่พอวิวที่อยู่ข้างหน้าก็สวยมากๆ หาแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ เมื่อกินเสร็จเก็บขยะเรียบร้อย ออกเดินทางกันต่อ
และแล้วเราก็ได้พบกับภาพที่พวกเราคุ้นตา เหมือนโปสเตอร์แผ่นนั้นเลยค่ะ ต่างกันแค่ท้องฟ้าที่วันนี้มีหมอกลงหนา แต่สักพักเมื่อลมพัดมาหมอกก็เคลื่อนไป จางลงเห็นวิวสะพานเบื้องหลัง สักพักหมอกระลอกใหม่ก็พัดผ่าน เพียงชั่ววินาทีภาพที่ได้เห็นก็เปลี่ยนไป เหมือนอยู่โลกอีกใบที่ไม่คุณเคยเลยล่ะค่ะ ธรรมชาติช่างมหัศจรรย์เสียจริงค่ะ
พวกเราใช้เวลาดื่มด่ำอยู่ ณ ที่แห่งนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้เวลาที่ต้องกลับลงไป ขากลับพวกเราเดินลงไปที่จอดรถแทนการเดินกลับไปทางเดิมเพื่อลงกระเช้า จากพื้นที่แห้งๆ เริ่มมีต้นไม้สีเขียว ป่าสนที่อุดมสมบูรณ์
การเดินทางนอกลู่นอกทางครั้งที่ 2 ก็เริ่มขึ้น เมื่อเราต้องการปรับระยะทางให้สั้นลง เราก็ต้องใช้ทางลัด และทางลัดนั้นไม่มีเส้นทางปกติให้เดิน พวกเราต้องเดินตัดป่าสนออกมา ทุลักทุเลไม่น้อยเลย แต่เพราะเดินเส้นทางนั้นทำให้เราได้เห็นภาพอีกมุมที่ไม่ปกติค่ะ
ระหว่างเดินได้ยินเสียงน้ำตกจากที่ไกลๆ แค่ได้ยินก็รู้สึกสดชื่นแล้วค่ะ พอถึงน้ำตกไม่รอช้าขอสัมผัสน้ำเสียหน่อยให้ชื่นใจ น้ำเย็นต่างจากอุณหภูมิของอากาศมากเลย… แค่ได้สัมผัสก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ
และแล้วพวกเราเดินมาจนถึงที่จอดรถ ได้เวลาโบกมือลาผู้นำทางของเรา
ขอบคุณการเดินทางในครั้งนั้นที่ทำให้ได้ทำและเห็นในสิ่งที่ไม่คาดคิด
หลายครั้งที่เราเอาแต่มองเป้าหมาย และจุดหมายปลายทางของเราว่าอีกไกลแค่ไหนเราจะไปถึงจุดนั้น ทำอย่างไรถึงจะถึงเร็วๆ เพื่อดื่มด่ำกับสิ่งที่เราต้องการ ทั้งๆ ที่ระหว่างทางก็มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย แต่เรากลับเผลอมองข้ามสิ่งนั้นไป บางครั้งเราลองลดจังหวะในการเดินให้ช้าลง ใช้เวลาเพลิดเพลินกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวก่อนจะถึงจุดหมาย แม้จะไม่สวยงามมากขนาดเป็นภาพที่เราจดจำได้ แต่ก็เป็นภาพหนึ่งของความทรงจำ ทั้งเลวร้ายและสวยงาม
Stay healthy and be happy