BLOG
บทความ
ช่วงนี้อากาศที่ประเทศไทยหนาวขึ้นแล้ว ทำให้คิดถึงตอนไปเที่ยวต่างประเทศกันไหมคะ? ^-^
พอได้มีโอกาสหยิบเสื้อผ้าแขนยาวหรือเสื้อผ้าหน้าหนาวขึ้นมาใส่แล้ว ก็อดที่จะนึกถึงตอนที่ไปเที่ยวต่างประเทศหรือญี่ปุ่นในฤดูหนาวไม่ได้เลย รู้สึกคิดถึงหิมะมาก ๆ เลยค่ะ
ซึ่งถ้าถามว่าสิ่งที่ตราตรึงใจในการเที่ยวฤดูหนาวที่ประเทศญี่ปุ่นคืออะไร คงตอบว่าเป็นทิวทัศน์สวย ๆ ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะท่ามกลางหิมะขาวโพลนแบบนี้เลย
ถึงแม้หมู่บ้านชิราคาวาโกะจะมีเอกลักษณ์ที่สวยงามทุกฤดูกาลอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวประทับใจบรรยากาศของฤดูหนาวมากที่สุดเลยค่ะ ซึ่งถ้าใครวางแผนการเดินทางมาอย่างดีล่ะก็ จะได้ชมการจัดแสดงไลท์อัพหรืออิลลูมิเนชั่นภายในหมู่บ้านตอนกลางคืนด้วยค่ะ โดยปกติแล้วจะจัดในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ใครอยากไปดูด้วยตาตัวเองต้องรอติดตามประกาศจากทางหมู่บ้านให้ดีเลยค่ะ
พอพูดถึงหมู่บ้านชิราคาวาโกะแล้ว สิ่งที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ก็คือ “บ้านโบราณ” ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้และที่ทำให้หมู่บ้านได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกด้วยค่ะ
แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่าบ้านรูปทรงสามเหลี่ยมและมุงจากหนา ๆ แบบนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร?
บ้านญี่ปุ่นรูปทรงโบราณแบบนี้เรียกว่า “บ้านทรงกัชโชสึคุริ (Gassho-zukuri / 合掌造り)” ค่ะ
โดยมีที่มาจากคำว่า “กัชโช” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “พนมมือ” เหมือนกับรูปทรงของบ้านที่คล้ายกับการพนมมือนั่นเองค่ะ
บ้านทรงพนมมือที่ทุกคนเห็นนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งการมุงฟางหรือมุงจากเป็นชั้นหนา ๆ แบบนี้ ก็เพื่อป้องกันความเย็นจากหิมะในฤดูหนาวค่ะ และจะต้องทำเป็นเนินสูงชันเพราะป้องกันการทับถมของหิมะ เพื่อไม่ให้หลังคาถล่มลงมาค่ะ
พอลองเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ จะเห็นได้เลยว่าหลังคามีความหนามาก ๆ พอเห็นหิมะทับถมหนา ๆ แบบนี้ก็แอบกลัวเหมือนกันนะคะ ที่นี่อากาศหนาวและหิมะหนามากเลยทีเดียว แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี ใครจะได้เจอหิมะมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ดวงของแต่ละคนเลยค่ะ
และเนื่องจากหลังคามุงด้วยฟางหรือจาก ความคงทนก็อาจจะไม่ได้อยู่ตลอดไป พอเกิดหิมะตกทับถมกันหนัก ๆ และไหลลงมาจากหลังคา ฟางหรือจากก็มักจะหล่นลงมาด้วย ซึ่งจะมีการซ่อมแซมหลังคาประมาณ 1-2 ครั้งใน 1 ปีค่ะ
แต่ถึงแม้จะมีการซ่อมแซมตลอดทุกปีก็ตาม หากใช้ไปนาน ๆ ก็อาจจะเสื่อมสภาพได้ จึงมีการเปลี่ยนยกหลังในทุก ๆ 30-40 ปีด้วยค่ะ ซึ่งการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนหลังคาที่ว่านั้น ก็มาจากการร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านนั่นเองค่ะ ซึ่งใช้เวลาและกำลังคนมากมายเลยทีเดียว และโดยส่วนใหญ่จะทำกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ใครไปเที่ยวช่วงนั้น หากดวงดีอาจจะได้ชมก็ได้นะคะ
บ้านทรงกัชโชสึคุริ ถือว่าเป็นสิ่งที่แสดงถึงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาชาวบ้านที่โดดเด่นของพื้นที่นี้ ใครมาเที่ยวก็อยากให้มาชมกันนะคะ แต่ถ้าใครไม่มีเวลามาเยือนถึงหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ก็สามารถไปเที่ยวชมบ้านทรงกัชโชสึคุริได้ที่ “หมู่บ้านกัชโชเกโระออนเซ็น (Gero Onsen Gassho-Mura / 下呂温泉合掌村)” สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกโระได้เช่นกันค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยกเอาบ้านกัชโชสึคุริหรือบ้านโบราณญี่ปุ่นจากหมู่บ้านชิราคาวาโกะมารักษาไว้ที่เมืองเกโระแห่งนี้ และเปิดให้ทุกคนได้เข้ามาซึมซับบรรยากาศและเรียนรู้วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวบ้านในสมัยก่อนได้โดยไม่ต้องไปไกล
มาตอนใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยเหมือนกันค่ะ ^_^
📌หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawago / 白川郷)
แผนที่ https://goo.gl/maps/wxLjDtxxBUtZjAFm7
เว็บไซต์ http://shirakawa-go.org/en
📌หมู่บ้านกัชโชเกโระออนเซ็น (Gero Onsen Gassho-Mura / 下呂温泉合掌村)
แผนที่ https://goo.gl/maps/uPocx3fMcaB8Phdi6
เว็บไซต์ http://gero-gassho.jp/lg_en