BLOG

“ไปคาวาโกเอะ ก็ต้องกินมันหวาน” เคยได้ยินคำพูดนี้กันไหมคะ
ทำไม “คาวาโกเอะ” ต้องเป็น “มันหวาน” วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันค่ะ



เมืองคาวาโกเอะที่รู้จักกันในชื่อ โคะเอโดะหรือ “ลิตเติ้ลเอโดะ” เมืองที่มีกลิ่นอายความเก่าแก่ ทั้งสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่เรียงรายให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลาไปในสมัยเอโดะ



ที่นี่ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ เหนือโตเกียว ซึ่งสามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดายด้วยรถไฟโทบุ (Tobu Railway) สายโทโจ (Tobu-Tojo Line) จากสถานีอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro Station) มาลงที่สถานีคาวาโกเอะ (Kawagoe Station) ต่อเดียวถึง ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นค่ะ ใครที่มาเที่ยวโตเกียวแล้วอยากสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นสมัยก่อน คาวาโกเอะก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ค่ะ


บรรยากาศที่ทุกคนน่าจะคุ้นตาเมื่อได้เห็นภาพของเมืองคาวาโกเอะ นอกจากถนนที่ทอดยาวและเรียงรายไปด้วยบ้านเรือนหรือร้านค้าที่เป็นบ้านไม้ญี่ปุ่นสมัยเก่า ก็คือหอระฆังที่ตั้งตระหง่าน เป็นเหมือนจุดแลนด์มาร์ก จุดเช็คอินที่ถ้าใครไม่ได้มาถ่ายรูปตรงนี้ก็จะถือว่ามาไม่ถึง




บริเวณนี้เรียกว่า “คุระสึคุริ โนะ มาจินามิ” (Kurazukuri no Machinami / Kawagoe’s Warehouse District / 蔵造りの町並み) หรือย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยโกดังเก็บสินค้าในสมัยก่อนนั่นเองค่ะ ซึ่งคาวาโกเอะถือเป็นเมืองแห่งการค้าที่รุ่งเรืองในสมัยเอโดะ แต่ปัจจุบันก็ได้มีการนำโกดังเก็บสินค้าดังกล่าวมาดัดแปลงกลายเป็นร้านค้ามากมายให้เราได้เพลิดเพลินกันทุกวันนี้ค่ะ



เราสามารถนั่งรถบัสรอบเมือง Koedo Kawagoe Loop Bus ได้บริเวณทางออกสถานี ฝั่งตะวันออก ไปยังบริเวณย่านเมืองเก่าได้ โดยลงที่ป้าย Nakacho หรือ Ichibangai หรือ Fudanotsuji ค่ะ
ตรวจสอบเส้นทางและตารางเวลารถบัส https://www.tobu-bus.com/en/kawagoe/




หรือใครเป็นสายชอปปิง ไม่อยากทิ้งเวลาให้เสียเปล่า สามารถเดินมาจากสถานี โดยผ่านถนนย่านการค้า “Crea Mall” ซึ่งมีร้านให้ชอปปิงมากมาย รวมถึงมีดองกี้โฮเต้ด้วยค่ะ ใครสายชอปปิงก็มาเดินและชอปปิงเพลินๆ ระหว่างทางกันได้ จากสถานีใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีค่ะ




เมื่อมาถึงคาวาโกเอะ เราก็จะได้เห็นร้านขนมหวานที่จำหน่ายเมนูมันหวานหรือ Sweet Potato อยู่เยอะแยะมากมาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสินค้าขึ้นชื่อของที่นี่คือ “มันหวาน” อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์ครีมมันหวาน มันหวานทอดกรอบ มันหวานย่าง มันหวานเชื่อม และอื่นๆ อีกมากมายที่มีให้เลือกหลายเมนู

ย้อนไปเมื่อสมัยเอโดะ พื้นที่คาวาโกเอะมีการปลูกมันหวานเป็นจำนวนมาก และในช่วงนั้นมีการส่งผลผลิตอย่างมันหวานไปยังเมืองเอโดะมากมาย ชื่อเสียงจึงเริ่มขยายเป็นวงกว้าง จนมันหวานเหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็น “มันหวานคาวาโกเอะ” และภาพลักษณ์ของคาวาโกเอะ ก็กลายเป็นมันหวานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และอีกเหตุผลที่มันหวานได้รับความนิยมมากเป็นเพราะถือเป็นของหวานในราคาที่จับต้องได้

ความเป็นมาข้างต้นดูจะเป็นอะไรที่สวยงาม แต่แท้จริงแล้วมีความขมขื่นซ่อนอยู่ค่ะ

แท้จริงแล้วมันหวานไม่ได้เป็นผลผลิตท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น แต่ได้รับเข้ามาเมื่อต้นศตวรรษที่ 18 ทางแถบตะวันตกเฉียงใต้หรือภูมิภาคคิวชูนั่นเอง ส่วนชื่อของมันหวานหรือ “ซะสึมะอิโมะ” ตามภาษาญี่ปุ่น มาจากชื่อของพื้นที่ซะสึมะในอดีต ที่ปัจจุบันเป็นพื้นที่หนึ่งในจังหวัดคาโกชิมะค่ะ

ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการนำมันหวานเข้ามาในภูมิภาคคันโต ร่วมถึงคาวาโกเอะ ตามประวัติกล่าวไว้ว่ามันหวานเริ่มปลูกในเมืองคาวาโกเอะในปี ค.ศ. 1751 ซึ่งก่อนหน้านั้นการเกษตรในพื้นที่นี้ค่อนข้างยากลำบาก ไม่ว่าจะปลูกข้าวหรือผลผลิตอื่น ๆ ก็จะได้รับความล้มเหลวมาโดยตลอด จนกระทั่งมีการทดลองปลูกมันหวาน ด้วยความปรารถนาที่หวังจะบรรเทาความอดอยากของคนในท้องถิ่น กลายเป็นว่ามันหวานในพื้นที่นี้ออกผลผลิตดีเกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก จนมันหวานกลายมาเป็นความภาคภูมิใจของคาวาโกเอะมาจนถึงปัจจุบันค่ะ

ความผูกพันธ์ของคนในคาวาโกเอะและมันหวานนั้นแน่นแฟ้นถึงขนาดมีการสร้างรูปปั้นเทพคาวาโกเอะซะสึมะอิโมะ ตั้งไว้ที่วัดเมียวเซนจิ ในปี ค.ศ. 1995 โดยสมาคมส่งเสริมผลิตภัณฑ์มันหวานคาวาโกเอะ เป็นการรำลึกถึงบรรพบุรุษที่มุ่งมั่นในการปลูกมันหวานเพื่อบรรเทาความอดอยากของชาวเมืองในสมัยนั้น อีกทั้งปัจจุบันยังมีการจัดพิธีรำลึกขึ้นทุกปีในวันที่ 13 ตุลาคมด้วยค่ะ

ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว มันหวานยังมีกากใยอาหารสูงและดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ (แต่ถ้ารับประทานเยอะไปก็ไม่ดีนะคะ)
รู้อย่างนี้แล้วใครที่ไปเที่ยวคาวาโกเอะ ก็อย่าลืมแวะร้านค้าเพื่อลองชิม “มันหวาน” ของคาวาโกเอะกันด้วยนะคะ (^^)