BLOG

คนที่เป็นแฟนคลับประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบซามูไรเป็นพิเศษ จะต้องรู้จักอาวุธประจำกายอย่าง “ดาบคาตานะ” ที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์สุดเท่ หรือที่รู้จักกันอย่างคุ้นเคยในชื่อว่า “ดาบซามูไร”


ในปัจจุบัน “ดาบ” อาจจะไม่ได้มีบทบาทมากนัก นิยมเป็นของสะสมหรือมองว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
ใครที่อยากใกล้ชิดหรือเรียนรู้เกี่ยวกับดาบ วันนี้จะพาทุกคนไปเยือน “เมืองเซกิ” ที่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของการตีดาบหรือผลิตของมีคมต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันในปัจจุบัน


ย้อนไปเมื่อสมัยมุโรมาจิ ช่างตีดาบได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ที่เมืองเซกิ จังหวัดกิฟุ เริ่มมีการตีดาบและผลิตดาบ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อเสียงของดาบเมืองเซกิที่ได้ขยายออกไปทั่วทั้งญี่ปุ่น อันเป็นที่เรื่องลือว่า “ไม่หัก ไม่งอ และคมกริบ” และนอกจากช่างฝีมือดีแล้วนั้น ทรัพยากรของเมืองเซกิที่มีอยู่ก็เพียบพร้อมสำหรับการผลิตดาบ ทั้งแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำนาการะ ถ่านหินที่จำเป็นต่อการชุบแข็ง และดินแดงที่ใช้สำหรับย้อมสีใบมีด ดังนั้นเมืองเซกิจึงเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของการตีดาบในญี่ปุ่นมานานถึง 700 ปี


หากพูดถึงดาบอาจจะดูไกลตัวไปสักนิดในตอนนี้ แต่หากพูดถึง “ใบมีด” ก็จะรู้สึกใกล้ตัวขึ้นมาบ้างใช่ไหมคะ ^^

จากประวัติศาสตร์การตีดาบของเมืองเซกิ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เมืองเซกิก็ยังคงเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของมีด หรือของมีคมต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น มีดทำครัว กรรไกร มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ เป็นต้น และด้วยคุณภาพของสินค้าจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ยังได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยถือเป็น 1 ใน 3 แหล่งผลิตของมีคมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเลยทีเดียว

เริ่มรู้สึกสนใจในเมืองเซกิบ้างแล้วหรือยังคะ ^^ ซึ่งหากมีโอกาสมาเที่ยวที่เมืองเซกิล่ะก็ ต้องห้ามพลาดมาเรียนรู้และสัมผัสการตีดาบและการผลิตมีดของที่นี่ ซึ่งหากมาที่ “ร้านมีดซันชูและพิพิธภัณฑ์มีดเมืองเซกิ” ล่ะก็ จะไม่ใช่การเรียนรู้ที่น่าเบื่อแน่นอนค่ะ


ตัวอาคารตกแต่งขาวดำ มีสไตล์ความเป็นญี่ปุ่น เมื่อเดินเข้าไปด้านในก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กทางด้านขวา มีห้องกั้นกระจกที่มีเตาเพลิงและคุณลุงช่างตีดาบนั่งทำงานอยู่อย่างขมักเขม่น



เดินเข้าไปจะพบกับการจัดแสดงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ในการตีดาบ กระบวนการ และองค์ประกอบของดาบ รวมไปถึงมีดและของมีคมต่าง ๆ ในหลากหลายรูปแบบ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำและให้ข้อมูลต่าง ๆ กับเราค่ะ










นอกจากจะได้รับความรู้แล้ว ยังสามารถทดลองตีดาบด้วยตัวเองได้อีกด้วย เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากจริง ๆ ค่ะ ใครได้มาเยือนที่นี่ก็ขอให้ลองทำกันนะคะ แล้วจะรู้ว่ากว่าจะได้ดาบมาสักเล่มนึงนี่ลำบากและเสียหยาดเหงื่อมากเลยทีเดียว ขนาดตีไปแค่ไม่กี่ทีก็แขนสั่นแล้วค่ะ ^0^




นอกจากการทำกิจกรรมแบบลุย ๆ อย่างการตีดาบแล้ว ที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมเบา ๆ อย่างการทำกรรไกรจิ๋ว หรือทดลองสวมชุดกิโมโน







รวมไปถึงการชมโชว์รำดาบสุดเท่ ชื่นชมความคมของดาบที่ผลิตจากเมืองเซกิอย่างใกล้ชิด




ไม้ไผ่ที่ถูกฟันด้วยดาบขาดสะบั้น พื้นผิวเรียบกริบ สัมผัสได้ถึงความคมของดาบแบบขนลุกเลยค่ะ


บริเวณข้าง ๆ พิพิธภัณฑ์ ก็มีร้านค้าขายสินค้าขึ้นชื่อของเมืองเซกิ ซึ่งเป็นของใช้มีคมต่าง ๆ ทั้งมีดทำครัว กรรไกร กรรไกรตัดเล็บ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เหมาะสำหรับนำไปเป็นของฝากมากค่ะ









มาที่นี่เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว!
หากมาที่ร้านมีดซันชูและพิพิธภัณฑ์มีดเมืองเซกิแห่งนี้ ทุกคนจะได้รับความรู้รวมไปถึงความสนุกและประสบการณ์ที่หาได้ยากไปพร้อม ๆ กัน ใครชื่นชอบดาบหรือซามูไรก็ขอให้ลองมาเที่ยวที่นี่ดูสักครั้งค่ะ

📌 ร้านมีดซันชูและพิพิธภัณฑ์มีดเมืองเซกิ
(Cutler SANSYU & Seki Hamono Museum / 刃物屋三秀・関刃物ミュージアム)
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 – 16.30 น. * ไม่มีวันหยุด
การเดินทาง:
– จากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station/名古屋駅) นั่งรถบัสด่วนนาโกย่า (Nagoya Express Bus/高速名古屋バス) ที่มุ่งไปยังสถานีมิโนะชิ (Minoshi Station/美濃市駅) หรือเซกิเทคโนไฮแลนด์ (Seki Techno Highland/関テクノハイランド) ไปลงที่ป้ายอะคะสึจิซากะ (Akatsuchisaka/赤土坂) เดินต่อประมาณ 10 นาที
– จากสถานีกิฟุ (Gifu Station/岐阜駅) นั่งรถบัสสายกิฟุ-เซกิ (Gifu-Seki Line/岐阜関線) หรือสายกิฟุ-มิโนะ (Gifu-Mino Line/岐阜美濃線) ไปลงที่ป้ายโอยานะ (Oyana/小屋名) เดินต่อประมาณ 7 นาที
แผนที่: https://goo.gl/maps/8Z1s1nzZxpe6CScd6