BLOG
บทความ

อรุณสวัสดิ์รับเช้าวันใหม่ในโอคายามะ
เมื่อพูดถึง “มะกอก” ในญี่ปุ่น หลายคนก็คงคิดถึงเกาะโชโดะชิมะ จังหวัดคางาวะที่ได้รับฉายาว่า ‘Olive Island’ เป็นแน่แท้
เส้นทางสายมะกอกในญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1908 ได้มีการทดลองปลูกในจังหวัดต่างๆ รวมถึงเกาะโชโดะชิมะ มีเพียงเกาะโชโดะชิมะเท่านั้นที่ต้นมะกอกเติบโตอย่างดี และต่อมาการเพาะปลูกมะกอกในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งล้วนอยู่ในละแวกทะเลในเซโตะทั้งจังหวัดฮิโรชิม่าและโอคายามะก็แพร่หลายและขยายเป็นวงกว้างยิ่งขึ้น
ถ้าพูดถึงมะกอกของจังหวัดโอคายามะ ก็ต้องเป็น Ushimado Olive Garden สวนมะกอกในตำบลอุชิมาโดะ ในจังหวัดโอคายามะ
เรื่องราวของต้นมะกอกที่อุชิมาโดะ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1942 หลังจากได้ต้นอ่อนมะกอกมาจากเกาะโชโดะชิมะ จังหวัดคางาวะ แล้วทดลองปลูกจนในที่สุดต้นมะออกก็ได้เติบโตเจริญงอกงาม
สวนมะกอกอุชิมาโดะ ตั้งอยู่บนเนินสูงที่สัมผัสได้ถึงความสงบของทะเลในเซโตะ ความอบอุ่นของอากาศ และแสงแดดที่สดใส จึงทำให้ที่นี่มีบรรยากาศคล้ายกับทะเลอีเจียน เรียกได้ว่าเป็น “ทะเลอีเจียนแห่งญี่ปุ่น” เลยก็ว่าได้
จากทางเข้าสู่สวนมะกอกด้านบน ข้างทางมีต้นมะกอกปลูกเรียงราย มีทะเลในเซโตะเป็นฉากหลัง และท้องฟ้าสีครามที่เข้มกว่าไล่เรียงเป็นเฉดสวยงาม ป้ายชื่อสวนเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น “牛窓オリーブ園” คอยบอกเส้นทางเป็นระยะๆ
พอลงมาจากรถเป็นต้องตะลึงงันกับวิวของทะเลในเซโตะสีครามที่กว้างใหญ่ ไกลสุดลูกหูลูกตา ผิวน้ำทอประกายระยิบระยับจากแสงแดดที่กระทบ ความสงบก่อตัวขึ้นในใจอย่างหน้าประหลาด
เสียงเครื่องตัดหญ้าที่คุณตาชาวสวนกำลังตั้งใจตัดหญ้าอยู่บนเนินชวนให้ตื่นจากภวังค์
ป้ายต้อนรับเล็กๆ “Welcome😊” ชวนให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ม้านั่งที่ตั้งอยู่อย่างเหงาๆ หันหน้าออกทะเลในเซโตะ ให้ได้นั่งชมวิวอย่างจุใจ
เหมือนโดนสะกดจิตและได้แต่คิดในใจว่า อยากนั่งมองทะเลเฉยๆ ปล่อยให้เวลาและสิ่งรอบๆ เคลื่อนไหวอย่างอิสระ ก่อนจะหลุดเข้าไปในมนต์สะกดของทะเลในเซโตะไปมากกว่านี้ ต้องรีบลุกขึ้นมาเพื่อสลัดความคิดออกไป
ภายในสวนมีจุดถ่ายรูปเยอะแยะละลานตาเต็มไปหมด ใครที่ชอบถ่ายรูปสวยๆ ลง SNS ที่นี่ก็เป็นจุดหมายที่ดูน่าสนใจไม่น้อย
ทว่าบรรยากาศในสวนดูเงียบสงบกว่าที่คิด หรือเพราะว่าเป็นเช้าวันธรรมดา…ก็ไม่แน่ใจนัก
ตู้จดหมายสีชมพูสะดุดตา
“ตู้ไปรษณีย์แห่งรัก” (恋ポスト) ที่พร้อมส่งความสุขให้ทุกคน สมกับที่อุชิมาโดะได้ชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งรัก
มาเขียนสิ่งที่ไม่สามารถบอกกับคนรักหรือครอบครัวได้ สิ่งที่เก็บไว้คนเดียวจนอัดแน่นผ่านจดหมายฉบับนี้แล้วหย่อนลงตู้ไปรษณีย์สีชมพู เพื่อบรรเทาอาการอัดอั้นที่สุมอยู่ในอกก็ดีไม่น้อย
เดินไปตามทางเรื่อย ๆ ก็พบกับ “ระฆังแห่งความสุข” (幸福の鐘)
เชื่อกันว่าถ้าตีระฆัง 3 ครั้งจะเรียกความสุขมาหา
อีกสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามความน่ารักไปได้เลยก็คือ วัวตัวจิ๋ว ที่โผล่หน้าออกมาจากกรอบไม้
ทำไมวัวตัวนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ มีความเกี่ยวข้องอะไรกันนะ
และแล้วก็ถึงบางอ้อ เพราะนี่คือสัญลักษณ์ที่ได้มาจากชื่อของย่านนี้และชื่อสวนนี่เอง
Ushi (牛) = วัว + Mado(窓)= หน้าต่าง จึงออกมาเป็นสิ่งนี้ที่ตั้งอยู่ข้างระฆัง
ใกล้กันยังมีหัวใจสีชมพูให้ได้ถ่ายรูป สีชมพู สีเขียว และสีฟ้า เป็นการจับคู่กันได้อย่างเหมาะสมเสียจริง
เห็นร้านขายของแล้วเดินผ่านไปเฉยๆ ก็ดูเหมือนไม่ค่อยไม่เกียรติกันเท่าใดนัก จึงต้องแวะชมสินค้าและเลือกซื้อของกันเสียหน่อย เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานที่
ป้ายรูปซอฟต์ครีม พ่วงมาพร้อมคำว่า PREMIUM เตะตาจนอดไม่ได้ที่จะเดินไปสั่ง
ซอฟต์ครีมของที่นี่ตัวซอฟต์ครีมทำจากนมวัวเจอร์ซี่ที่เลี้ยงในที่ราบสูงฮิรุเซ็น พื้นที่ต้นบนของจังหวัดโอคายามะ
โรยตัวเนื้อมะกอกอบแห้ง เพิ่มเติมความอร่อยด้วยโรลเค้กมะกอก เนื้อซอฟต์ครีมนัวๆ หอมนม มีเนื้อมะกอกให้เคี้ยว
ข้างๆ ร้านขายของฝาก ก็เป็นร้านขายผลิตภัณฑ์จากมะกอก สินค้ามะกอกแปรรูปมากมายรวมไว้ที่นี่ ทั้งน้ำมันมะกอกหลากรสชาติ เกลือมะกอก และเครื่องประทินโฉม มีให้เลือกละลานตา
ที่ชั้น 2 มีคาเฟ่ให้เข้าไปใช้เวลาพักผ่อนพร้อมชมวิวสวยๆ
“Yama-no-ue-no-roastery” (山の上のロースタリ) ร้านกาแฟที่ดำเนินกิจการโดย Kinoshitashouten ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วโอคายามะ ร้านกาแฟท้องถิ่นของโอคายามะ ดื่มด่ำกับกาแฟรสเลิศ พร้อมชมวิวสวยๆ ของทะเลในเซโตะ
นอกจากกาแฟและวิวสวยๆ แล้ว ยังมีเสื้อผ้า และสินค้านานาที่ร้านคัดสรรค์มาให้ซื้อเป็นของที่ระลึก
ชั้น 3 – 5 เป็นจุดชมวิว ที่ตึกไม่มีลิฟต์ต้องเดินขึ้นบันไดไปข้างบน พอถึงชั้น 5 จะได้ชมวิวที่เปิดกว้าง เห็นทั้งทะเลในเซโตะและสวนมะกอกในมุมกว้าง
ลมเย็นๆ ที่พัดมาปะหน้า วิวทะเลในเซโตะที่เงียบสงบ บทสนทนาที่เงียบงัน เสียงตัดหญ้าคลอเสียงนกร้องเบาๆ เป็นดนตรีประกอบ
…ช่วงเวลาที่ชวนให้ผ่อนคลายกลับมาทักทายอีกครั้ง…
แปลกแต่จริง….ทะเลในเซโตะที่ขนาบด้วยจังหวัดโอคายามะและจังหวัดคางาวะนั้น สถานที่เดียวกันมองจากคนละมุม สิ่งที่เห็นก็คนละแบบ คนละความรู้สึกเลย…😌
พอได้อยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติแล้วรู้สึกดีชะมัดเลย 💙