BLOG
บทความ
หลังจากโควิดการเดินทางออกนอกประเทศก็เงียบหาย และแล้วการเดินทางครั้งแรกหลังโควิด… ไม่ใช่สิ ในช่วงโควิดก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
….
..
.
การเดินทางครั้งนี้ทำเอากระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข กังวลนู่นนั่นนี่เต็มไปหมด ให้ความรู้สึกเหมือนการนั่งเครื่องบินครั้งแรกอีกครั้ง
แม้จะเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มีโอกาสร่วมเดินทางกับคุณกัน นภัทร ทีมงาน และแฟนคลับ แต่ก็ยังตื่นเต้น ตื่นตระหนกอยู่ดีค่ะ ^^;
ก่อนเดินทางได้บอกพี่ชิถึงความกังวล พี่ชิบอกว่า “ไม่ต้องกังวลเพราะมีคนคอยช่วยอยู่เต็มเลยกลัวอะไร”
เหมือนจะผ่อนคลายลงแต่หัวใจและสมองก็ไม่ได้คล้อยตามเลย… ความอยากอาหารเป็น 0 ยิ่งใกล้ถึงเวลาเท่าไหร หัวใจยิ่งเต้นรั่ว กังวลโน้นนี่นั่นไปหมด
ในที่สุดก็ถึงสุวรรณภูมิ…
((ระหว่างทางมาสนามบินไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีได้หรือไม่ที่ได้คนขับที่คุยเก่งจ่อไม่หยุด ขับเร็วประหนึ่ง Fast & Furious สวมวิญญาณเป็นวิน ดีเซล แถมยิ่งมุกมาไม่ขาดสาย จนระหว่างนั่งรถก็ลืมเรื่องที่กังวลไปหมด เพราะมัวแต่กังวลเรื่องความปลอดภัยแทน มือหนึ่งกุมพระให้แน่น 555555+++))
การเดินทางครั้งนี้เป็นการกลับมาของคุณกัน นภัทร ในฐานะตัวแทนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดฟุกุชิมะอีกครั้งหลังจากได้เดินทางไปฟุกุชิมะในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ในทริปนี้จึงมาภายในธีม “Return to Fukushima”
ที่สนามบินสุวรรณภูมิแฟนคลับต่างก็มาส่งคุณกันอย่างอุ่นหนาฝาคลั่ง สัมผัสได้ถึงความรักและแรงสนับสนุนที่มอบให้ศิลปินที่รักด้วยความบริสุทธิ์ และตัวศิลปินเองก็คงรับรู้ถึงแรงสนับสนุนอันยิ่งใหญ่นี้เช่นเดียวกัน
ในครั้งนี้ทางช่อง ONE ได้มาสัมภาษณ์เกี่ยวกับทริปนี้ด้วย ยิ่งใหญ่เกรียงไกรสมชื่อมากค่ะ
แฟนคลับที่เดินทางด้วยกันในครั้งนี้นี้ หลายคนก็คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างนี้ เหมือนผู้ร่วมชะตากรรมในทริปแรกเมื่อปี 2561 ที่จังหวัดคางาวะค่ะ ^^;
เครื่องบินออกเดินทางตามเวลาที่กำหนดไว้ หลับไปสัก 2 – 3 ตื่น เครื่องก็ลงที่นาริตะเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อถึงสนามบินคุณกัน ทีมงาน และแฟนคลับก็แวะเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวให้เรียบร้อย ก่อนจะออกไปสัมผัสอากาศอันหนาวเย็นที่รอปะทะอยู่ด้านนอกอาคาร
เมื่อผ่านการตรวจเข้าเมืองต่างๆ ตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดินออกไปก็ได้พบกับพี่ชิที่รอต้อนรับด้วยความสดใสเสมอๆ ที่สนามบินนาริตะเองก็มีแฟนๆ ที่อยู่ญี่ปุ่นมารอต้อนรับ
การเดินทางครั้งนี้มีพี่แอ๊ะเป็นไกด์นำทาง คอยพูดคุย แนะนำจังหวัดฟุกุชิมะและประเทศญี่ปุ่นให้ทุกคนฟัง แถมยังถ่ายทอดประสบการณ์ตรงที่ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นให้ทุกคนฟังบนรถบัส และมีพี่ชุที่เป็นแลนด์โอเปอเรตอร์คอยจัดแจงเรื่องการจองร้านอาหารและที่พัก บางครั้งก็สลับจับไมค์กับพี่แอ๊ะเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นให้ทุกคนฟัง และอีกคนที่เดินทางมากับพวกเราตั้งแต่ที่สนามบินสุวรรณภูมิก็คือ พี่แชมป์แห่ง Jubilee ที่รอบนี้มาในฐานะ Tour Leader
จากสนามบินนาริตะ รถบัสวิ่งผ่านจังหวัดต่างๆ ที่ละจังหวัด นาริตะ อิบารากิ ก่อนจะเข้าไปยังเมืองอิวากิ จังหวัดฟุกุชิมะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงปลายๆ เกือบ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางก็ได้แวะยืดเส้นยืดสาย 1 ครั้ง
ระหว่างเดินทางไปฟุกุชิมะหลายคนก็ผล่อยหลับไป อาจเป็นความง่วงสะสมที่ไม่ค่อยได้นอนบนเครื่องบินก็เป็นไปได้ค่ะ
ตลอดการเดินทางมีการ LIVE ผ่านเพจการท่องเที่ยวของจังหวัดฟุกุชิมะ (WeLoveFukushima) เพื่อให้แฟนๆ ของคุณกัน นภัทรและผู้ชมทางบ้านได้ดื่มด่ำและสัมผัสเสน่ห์ของจังหวัดฟุกุชิมะในทุกแง่ทุกมุม เหมือนได้มาเที่ยวเอง
วันแรกในจังหวัดฟุกุชิมะ เริ่มต้นที่เมืองอิวากิ (Iwaki City) ตั้งอยู่ในพื้นที่ฮามะโดริ (Hama-dori Area) หรือทางฝั่งตะวันออกของจังหวัด เลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก พื้นที่นี้เมื่อเทียบกับพื้นที่ทางฝั่งตะวันตก หรือไอสึ (Aizu Area) ถือว่าอากาศอบอุ่นไปเลยทีเดียวเชียว
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง…
เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ทำก็คือ กินอาหารทะเลสดใหม่ที่ส่งตรงจากทะเลกันที่ “ตลาดปลาอิวากิลาลามิว” (Iwaki Lalamew Fish Market) ที่ตลาดปลามีเจ้าหน้าที่จังหวัดฟุกุชิมะมารอต้อนรับด้วยค่ะ น่ารักและอบอุ่น หลายคนโดนน้องเจ้าหน้าที่ท่านนี้ตกไปเสียแล้วค่ะ
น้องเจ้าหน้าที่ท่านนี้เคยมาไทยครั้งหนึ่ง ซึ่งเราเคยเจอกันแล้ว การได้เจอกันที่ฟุกุชิมะก็สร้างความตกใจแกมประหลาดใจไม่น้อย อารมณ์เหมือนอ้าว…มาด้วยเหรอ
ได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบพอประเป็นพิธี
ร้านที่เราจะไปกินกันก็คือ “ร้านฟีนิกซ์” ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ค่ะ
อาหารมื้อแรกของเราก็คือ อาหารชุดปลากินเมะไดตุ๋น ซาชิมิ ซุปมิโสะ ปลา ทอด เครื่องเคียง และข้าวสวยร้อนๆ ค่ะ
การ LIVE ผ่านโทรศัพท์มือถือก็ค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควร แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยฝีมือระดับ Professional ของคุณกัน นภัทร
หลังจากท้องอิ่มได้เวลาเดินย่อยกัน จากตลาดปลาอิวากิลาลามิวเดินเลียบท่าเรือโอนาฮามะไปยังจุดหมายต่อไปของเราได้นั่นก็คือ “Aquamarine Fukushima”
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาเที่ยวชมที่นี่
เมื่อเทียบกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอื่นๆ ในญี่ปุ่น ที่นี่อาจจะไม่ได้ดูอลังการมากเท่า เรียกได้ว่าเรียบง่ายและดูดี จะให้ความรู้สึกคล้ายแหล่งการเรียนรู้เสียมากกว่าค่ะ
เจ้าหน้าที่จังหวัดฟุกุชิมะก็ยังคงรอต้อนรับแทบจะทุกจุดที่เราไปกันเลยค่ะ
ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่ในปี 2554 คลื่นยักษ์สึนามิกวาดสัตว์น้ำทุกชนิกลับสู่ท้องทะเล ที่นี่ใช้เวลาฟื้นฟูเพียง 4 เดือนกว่าๆ เท่านั้น (126 วัน) จากความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจของเหล่าสตาฟและชาวเมือง
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยของที่นี่คือ Say Hi! ทักทายเจ้าแมวน้ำลวดลายแปลกใหม่
รอบนี้ก็ได้เจอเพื่อนตัวหนึ่งที่นิ่งทำตาพริ้มใส่ด้วยค่ะ น่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด❤
อีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดห้ามพลาดเลยด้วยประการทั้งปวง ใส่ดอกจันทร์ 100 ดอก ไว้ได้เลยค่ะ
นั่นก็คือ อุโมงค์ 3 เหลี่ยม ที่แบ่งออกเป็นกระแสน้ำเย็นและกระแสน้ำอุ่น
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าฝั่งไหนเป็นน้ำเย็นฝั่งไหนเป็นน้ำอุ่น
คุณกันก็ได้ให้คำนิยามเอาไว้ที่แสนเข้าใจง่าย
“น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย”
ปลาที่อาศัยอยู่ในเขตกระแสน้ำอุ่นนั้นจะเคลื่อนไหวเร็วกว่าปลาในกระแสน้ำเย็นค่ะ
มารอบนี้ได้เห็นกรรมวิธีทำความสะอาดตู้กระจกพอดิบพอดี เป็นจังหวะที่พิเศษมากๆ ค่ะ
สมควรแก่เวลาที่จะเคลื่อนพลไปยังที่พัก
คืนแรกเราจะไปพักกันที่ “Furutakiya Hot Springs Hotel”
โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น หรือเรียวกัง ที่เปิดให้บริการมายาวนานมากกว่า 300 ปี! ที่นี่ตั้งอยู่ในย่านอิวากิ ยุโมโตะออนเซ็น ย่านออนเซ็นเก่าแก่ด้านหน้าโรงแรมมี “ศาลเจ้าอิวากิ ยุโมโตะออนเซ็น” ศาลเจ้าคู่บ้านคู่เมืองที่สถิตของเทพเจ้าเทพแห่งออนเซ็นและยารักษา ชาวเมืองและผู้มาเยือนก็จะแวะเวียนมาสักการะขอพรไม่ขาดสาย
ก่อนขึ้นไปห้องพักยังพอมีเวลาเหลือก่อนจะรับประทานอาหารเย็น เลยเดินเล่นนิดหน่อยพอเป็นกระษัย
พระอาทิตย์เริ่มโพล่เพล้ บรรยากาศที่เงียบสงบจนสงัด เสียงอีการ้องก้องกังวาลทั่วทั้งพื้นที่… ชวนให้ต่อมจินตนาการเริ่มทำงาน อากาศเย็นปะทะร่างกายไม่รู้ว่าด้วยอุณหภูมิที่เริ่มลดลงหรือบรรยากาศที่เย็นยะเยือก
รีบกลับไปโรงแรมก่อนจะมืดดีกว่า….
เดินสาวเท้าจ้ำอ้าวกลับไปที่โรงแรม เจอพี่ชิและพี่กุ้งนั่งคอยอยู่ที่ล็อบบี้
ฤกษ์งามยามดีเหมาะแก่การขนกระเป๋าเดินทางไปห้องพัก
เมื่อเปิดประตูเข้าไปได้กลิ่นเสื่อทาดามิชวนให้รู้สึกสงบใจอย่างหน้าประหลาด ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นที่ต้องปูฟูตง หรือฟูกนอน ได้เอาหลังแนบพื้นรู้สึกสบายจริงๆ ค่ะ
มองเห็นศาลเจ้าจากห้องพักด้วยค่ะ ตอนนี้ที่นั้นเปิดโคมไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เผลอแผล็บๆ ก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็น อาหารเย็นวันนี้เป็นชุดไคเซกิที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นตามฤดูกาล
อร่อยทุกเมนู สัมผัสได้ถึงความประณีตของชาวญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดผ่านเมนูอาหาร
ส่วนตัวถูกใจอาหารจานนี้มากที่สุดเลยค่ะ
หอยนางรมนึ่งเสิร์ฟพร้อมสาหร่ายวากาเมะและผักกาดก้านขาว เพิ่มความสดชื่นด้วยเจลลี่น้ำส้มสายชู
ช่วงมื้อค่ำคืนนั้นน้องเจ้าหน้าที่จังหวัดฟุกุชิมะก็ได้มีของเล็กๆ น้อยๆ มามอบให้กับคุณกันและผู้ร่วมทริปทุกคนค่ะ
มาหน้าหนาวทั้งทีจะไม่กินไอศกรีมได้อย่างไร รสชาติที่สุดแสนคิดถึง สาวกคนชอบเคี้ยวน้ำแข็งต้องมากินให้ได้ค่ะ
จบวันแรกไปอย่างอิ่มหนำทั้งกายและใจ
พักผ่อนให้เต็มที่ก่อนจะไปผจญภัยวันพรุ่งนี้ต่อค่ะ