BLOG

บทความ

ตะลุยเกาะยักษ์และเกาะแมว ตอนที่ 2

ตะลุยเกาะยักษ์และเกาะแมว ตอนที่ 2

เรือเมะองเทียบท่าเรือเมงิจิมะ หลังจากผู้โดยสารบนเรือลงมากันหมดแล้ว คนที่รอขึ้นเรือก็ทยอยขึ้นเรืออีกครั้ง


ตายล่ะหว่าไม่มีตั๋วอยู่ในมือ ทำไงดีล่ะที่นี้เดินไปหาคุณน้าที่รอเก็บตั๋วเรือ น้าบอกไม่มีตั๋วใช่ไหม พร้อมควักตั๋วออกมาจากกระเป๋าที่คาดเอวอยู่พร้อมยื่นให้ รับเฉพาะเงินสดนะจ๊ะ โชคดีที่ตัวเรานี้มีเหรียญและแบงค์เพียบเลยนับๆ แล้วยื่นให้คุณน้าและเดินขึ้นเรือไปอย่างปลอดภัย



ไม่นานเรือเมะองก็ออกจากท่า เพียงไม่กี่อึดใจเรือก็เทียบท่าอีกครั้งจากเกาะเมงิจิมะมาเกาะโองิจิมะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ฟังเพลงแค่ 4 – 5 เพลงก็ถึงแล้วค่ะ


คนบนเรือค่อยๆ ทยอยลงจากเรือ แรกๆ เกาะกลุ่มกันบริเวณท่าเรือ หันมาอีกทีหายไปไหนกันหมดไม่รู้


อาคารสีขาวเหมือนเปลือกหอย “Ogijima’s Soul” ผลงานศิลปะที่จัดแสดงในเทศกาลศิลปะนานาชาติเซโตะอุจิ (Setouchi Triennale) ปี 2009 ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณท่าเรือ




ปัจจุบันอาคารหลังนี้เป็นทั้งงานศิลปะและเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนเกาะเมงิจิมะ ใกล้กันยังมีเรือเมองรุ่นก่อนที่ทอดสมอถาวร ประหนึ่งเป็นอนุสรณ์ให้ผู้มาเยือนได้ชมกัน
เป้าหมายแรกเมื่อมาที่เกาะโองิจิมะก็คือ “อาหารกลางวัน” ร้านจะเปิดในเวลา 11.00 น. เลยเดินรอบๆ บริเวณท่าเรือเก็บรูปไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ใกล้เวลา 11.00 น. เดินตาม google map ไป เห็นป้ายร้านแปะอยู่บนชั้น 2 ของอาคารสีขาว มีห้องไม้ยื่นออกมา บนหลังคาไฟไซเรนเปิดหมุนอย่างเมามัน


ร้านพร้อม แต่ตัวเรานั้นยืนงกๆ เงิ่นๆ อยู่ตรงนั้นไม่รู้จะไปทางไหนดี หาทางขึ้นไปที่ร้านไม่เจอ จะขึ้นเนินทางซ้าย เอ๊ะ หรือจะขึ้นบันไดทางขวาดี

จนในที่สุดก็ก็เลือกเดินไปทางซ้ายตามป้ายบอกทาง แม้ดูด้วยตาจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่นัก เมื่อเดินขึ้นเนินไปนิดหน่อยก็ได้เจอป้ายของร้านและไฟไซเรนอีกอัน ใช่แน่ๆ ทางนี้แหละ



เดินไปเรื่อยๆ จนเจอทางเข้า เมื่อประตูกระจกบานเลื่อนอะลูมิเนียมเปิดออก ลมเย็นๆ จากแอร์ปะทะร่างกายอย่างทันท่วงที โอ้โห…แอร์คอนดิชั่นคือดีที่สุด!


คุณป้าเจ้าของร้านทักทายอย่างแจ่มใส พร้อมก็ชี้ไปที่ป้ายกระดานดำหน้าประตูร้าน อาหารชุดมื้อเที่ยงของวันนี้มี 4 เมนูด้วยกัน ที่เมนูมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่ไม่ต้องกังวลใจไปเลย


มื้อนี้ขอเติมพลังด้วยปลาหมึกเทมปุระ!!!!
กว่าจะเลือกได้นั้นก็ใช้เวลาสักพักเลยแหละ อยากกินทุกอย่างเลย

คุณป้ารับออเดอร์ สักพักคุณลุงก็ออกมาทำอาหาร เสียงทอดปลาหมึกแค่ได้ยินก็รู้สึกแล้วว่าน่าอร่อย ในไม่ช้ากลิ่นก็ลอยตามมา ชัดเลยอร่อยแน่นอน


ระหว่างที่นั่งรอนั้นก็จับจองที่นั่งเลือกที่นั่งแบบเคาท์เตอร์หันหน้าออกสู่ทะเล
ชมวิวสวยๆ ด้วยตา สัมผัสอากาศเย็นๆ ในห้องแอร์ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีสุดแสนเกินจะบรรยาย




ไม่นานอาหารก็นำมาเสิร์ฟ


ปลาหมึกชิ้นโตชุบแป้งทอดสีขาวเหมือนหิมะ ถั่วกรอบๆ ที่เพิ่มความกรอบเข้าไปอีก x2 แคร์รอตก็มา หน้าตาว่าดีแล้วรสชาติสุดแสนเกินจะบรรยาย ปลาหมึกเนื้อนุ่มไม่เหนียว พอกัดฟันกระทบแป้งกรอบๆ จากนั้นก็โดนเนื้อปลาหมึกนุ่มๆ เป็นรสสัมผัสที่ดีมากเลย


ต่อมาก็ชื่นชมซุปมิโสะของร้าน ที่ใส่สุดะจิ จะเรียกว่าเป็นมะนาวหรือส้มดีนะ ส่วนตัวมองค่อนไปทางมะนาวมากกว่า พอใส่สุดะจิฝานลงไปยิ่งช่วยเพิ่มความสดชื่น แม้จะเป็นซุปอุ่นๆ แต่พอซดกับรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากเลยค่ะ


มื้อนี้ช่วยเพิ่มพลังเต็มสูบเลย

เมื่อท้องอิ่มก็ได้เวลาเดินต่อ
ถ้าทิ้งตัวเองในนั่งรากงอกนานกว่านี้เชื่อว่าจะไม่สามารถขุดออกมาได้แล้ว

ก่อนไป List สถานที่จะไปตามหาที่เกาะโองิจิมะไว้ประมาณหนึ่ง

Ogijima’s Soul

Ogijima wallalley

Toyotama-hime Shrine

Walking Ark

Dreaming of Blue

Ogijima Library

ทว่าความเป็นจริงบางสถานที่ก็ไม่เปิดให้บริการ น่าเสียดายจริงๆ

เดินกลับมาตั้งหลักที่ท่าเรืออีกครั้งและครุ่นคิดว่าจะไปทางไหนจะเริ่มจากอะไรดี ในมือเปิด Google map เอาไว้ ค่อยๆ เดินขึ้นเนิน ขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งก็เก็บมือถือ และเลือกเดินตามป้ายบอกทางสีน้ำเงินที่หลงเหลืออยู่จากเทศกาลศิลปะดีกว่า








เกาะโองิจิมะ (Ogijima) เป็นอีกหนึ่งเกาะในทะเลในเซโตะที่เป็นจุดแสดงงานศิลปะในเทศกาลศิลปะนานาชาติเซโตะอุจิ ความเป็นอยู่ในสมัยก่อนนั้นผู้ชายจะออกไปหาปลา ส่วนผู้หญิงก็จะปลูกพืช ผัก และข้าวบนเกาะ ปัจจุบันเกาะนี้ได้กลายเป็นเกาะศิลปะ จากเดิมที่มีแต่ผู้สูงอายุอาศัยอยู่ ศิลปะได้ช่วยคืนชีวิตชีวาให้กับพื้นที่นี้ บ้างก็เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ บ้างก็เปิดบริการเป็นคาเฟ่และร้านอาหาร ช่วยดึงให้คนหนุ่มสาวกลับมาเติมสีสันให้กับเกาะนี้อีกครั้ง




พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะเป็นเนินลาดชัน และบันไดทำให้การสัญจรบนเกาะที่สะดวกที่สุดก็คือการเดินค่ะ เพราะบางพื้นที่ห้ามไม่ให้รถจักรยานผ่านใครที่เช่าจักรยานต้องสังเกตป้ายดีๆ เพื่อจะไม่ไปรบกวนผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะ เพราะเราเป็นเพียงผู้มาเยือนค่ะ


เดินลัดเลาะตามตรอกซอยซอย เดินลงเนินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวก็ได้เห็นทุกอย่างที่ List ไว้จนครบแล้วค่ะ

วันนี้อากาศแจ่มใส แดดจ้า และร้อนมากๆ การเดินขึ้นเนินลงเนินเลียบทะเลก็ทำเอาหมดแรงเหมือนกัน แม้เหนื่อยพอเห็นวิวก็รู้สึกคุ้มค่าที่ไต่ขึ้นเนินมาเหมือนกัน ระหว่างไต่ขึ้นเนินบางครั้งหยุดและมองหันกลับไปก็จะพบสิ่งสวยงามที่อยู่เบื้องหลัง






ถ้าเรามัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดินงุดๆ เพื่อให้รอดพ้นเนินนี้ไปให้เร็วที่สุด เพื่อให้อยู่จุดสูงสุดแบบเร็วๆ บ้างครั้งก็อาจจะเหนื่อยเกินไป แม้ว่าวิวจากข้างบนจะสวยเหมือนกัน ก็พักบางอะไรบ้างก็ดีนะคะ


ระหว่างที่เดินไปตามจุดต่างๆ บนเกาะ ก็จะมีแมวที่โผล่ตามที่ต่างๆ บางที่พอได้ยินฝีเท้าเจ้าเหมียวก็เดินออกมาต้อนรับ หรือจะเรียกว่าดักปล้นดีนะ บนเกาะนี้แมวเยอะมากๆ จนได้ชื่อว่าเป็น “เกาะแมว” ถ้าเทียบกับแต่ก่อนประชากรแมวลดจำนวนลงไปพอสมควรจากมาตรการควบคุมฝูงแงวค่ะ







เรื่องราวของเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่ลอยอยู่ในทะเลในเซโตะอันกว้างใหญ่ กลับอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวที่จะทำให้หัวใจของคุณได้เต้นแรงอีกครั้ง ความน่ารักและความอบอุ่นของชาวเกาะที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ๆ แม้จะพูดต่างภาษาแต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ ความจริงใจ


ลองมองรูปเกาะจากมุมสูงก็แอบคล้ายหัวใจของคนเราเหมือนกันนะคะ


วันนี้ทะเลในเซโตะก็ยังคงสวยเหมือนเคย 💙


‘KAGAWA’ จังหวัดเล็กๆ ที่จะทำให้หัวใจคุณพองโต