BLOG

บทความ

ชมธรรมชาติและใกล้ชิดประวัติศาสตร์ที่สวนริทสึริน

ชมธรรมชาติและใกล้ชิดประวัติศาสตร์ที่สวนริทสึริน

เผลอแพล็บเดียวตอนนี้ที่ญี่ปุ่นฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะผ่านไป ฤดูหนาวกำลังจะทักทาย
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูหนึ่งที่เราอยากจะไปเดินทางไปชมสีสันสีส้มแดงที่ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับฤดูกาล


ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลที่ผ่านมาและผ่านไปไวราวเหมือนโกหก
หากจะบอกว่าฤดูใบไม้ผลิคือการเริ่มต้นชวนให้รู้สึกสดชื่นใจฟู ฤดูใบไม้ร่วงก็ชวนให้รู้ซึ้งถึงคำว่าร่วงโรยตามกาลเวลา ความไม่ยั้งยืน ชวนให้เหงาใจเสียเหลือเกิน


สิ่งที่จะมาช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับฤดูนี้ก็คงเป็นแสงไฟที่ประดับประดับประดาในยามค่ำคืน


ใช่แล้วค่ะ วันนี้จะพาทุกคนไปชมสวนสวยที่ประดับไฟให้ชมในยามค่ำคืนฤดูใบไม้ร่วงกัน!

สวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคางาวะที่มีขนาด ‘เล็กที่สุด’ ในญี่ปุ่น อย่าง “สวนริทสึริน” (Ritsurin Garden)


ก่อนอื่นมาทำความรู้จักสวนริทสึรินแห่งนี้กันก่อน

สวนริทสึริน สวนมรดกทางวัฒนธรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อายุกว่า 400 ปี และในปี ค.ศ. 2009 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 3 ดาวซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดจากหนังสือท่องเที่ยวของฝรั่งเศส “Michelin Green Guide”


ในสมัยเอโดะสวนแห่งนี้เคยเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของไดเมียวหรือเจ้าเมืองทากามาทสึ และไว้ใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง จึงมีความงดงามมากจนได้มีคำพูดว่า “สวนริทสึรินสวยงดงามมากจนไม่สามารถจัดอันดับได้เลย”

ภายในสวนอุดมไปด้วยต้นสนนานาพันธุ์หลากชนิดรูปทรงแปลกตากว่า 1,400 ต้น ทั้งสนสองใบ สามใบ สนดำ และสนแดง ในสวนยังมีต้นสนที่จักรพรรดิทรงมาปลูกเองด้วย ยิ่งมาในช่วงเช้าประมาณ 7 โมง 8 โมง หยาดน้ำค้างที่เกาะบนใบสน กระทบกับแสงอาทิตย์ช่วยส่องให้หยาดน้ำค้างเป็นประกายคล้ายคริสตัลใสบริสุทธ์เลยทีเดียวเชียว







สนสองใบ สนสามใบแยกไม่ยากเพียงมองใบสนเหมือนดูผมแตกปลายถ้าแยกออกมา 2 ก็คือสนสองใบ ถ้า 3 แฉกก็คือสนสามใบนั่นเอง แล้วสนแดงกับดำล่ะดูตรงไหนในเมื่อใบมันก็สีเขียวทั้งคู่ หากมองด้วยตาให้มองที่ลำต้น ทว่าค่อนข้างแยกยากเสียเหลือเกิน ต้องลองสัมผัสจะแยกง่ายยิ่งขึ้น

สนแดง (アカマツ) คือสนตัวเมีย สนดำ (クロマツ) คือสนตัวผู้ คุณลุงผู้เป็นอาสาสมัครของสวนแอบบอกเคล็ดลับระหว่างเดินชมสวนว่า สนแดงเป็นสนตัวเมียใบจะนุ่มว่าสนดำที่เป็นตัวผู้ที่ใบจะทิ่มเหมือนโดนเข็มตำ



ระหว่างที่ชมสน ก็มาชมโขดหินที่ประดับประดาอยู่ภายในสวน บางจุดก็เหมือนเป็นผลงานศิลปะที่รวมลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของต้นสนและหินไว้ด้วยกันอย่าง “สนนกกระเรียนขี่เต่า”
แค่ชื่อก็ชวนให้ว้าว 0[]0 แล้วใช่ไหมค่ะ


ยังมีหินผี หินสิงโตให้ชมด้วย
แค่ตามหาหินและสนก็ใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันแล้วค่ะ


ปล่อยร่างกายและจิตใจให้ล่องลอยเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติท่ามกลางเสียงน้ำตกประสานเสียงกับนกนานาพันธุ์
ธรรมชาติอันหลากหลายที่รวมไว้ในสวนนี้โดยมีภูเขาชิอุนหัวใจของสวนเป็นฉากหลัง

ภายในสวนมีอาคารต่างๆ ให้เข้าไปชมอาทิ อาคารที่จัดแสดงงานศิลปหัตกรรมซานุกิมินเกคังที่จัดแสดงงานศิลปหัตถกรรมของชาวซานุกิที่สืบทอดกันมายาวนาน อาทิ เครื่องเขิน เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องเคลือบ


“เรือนชงชาคิคุเกะทสึเท” อดีตเป็นสถานที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนทากามาทสึ จุดเด่นของเรือนชงชาหลังนี้คือ พื้นของเรือนชงชาจะทำเตี้ยๆ ไม่สูงมากทำให้รู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนเรือที่กำลังพาชมทัศนียภาพ





สามารถมาจิบชาพร้อมขนมญี่ปุ่นตามฤดูกาลได้ในเรือนหลังนี้ค่ะ



และไฮไลท์ของสวนแห่งนี้ก็คือ “จุดชมวิวฮิไรโฮ” (飛来峰) จุดชมวิวมุมสูงที่สามารถมองเห็นความงามโดยรอบของสวนริทสึริน



ที่สวนริทสึรินยังมีกิจกรรมนั่งเรือพายท้องแบนแบบญี่ปุ่นในสระนันโกะให้ได้ชมวิวที่แตกต่างจากบนเรืออีกด้วย








ในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้สีส้มสะท้อนบนผิวน้ำงดงาม







เทศกาลประดับไฟไลท์อัพให้ได้ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีและแสงไฟในยามค่ำคืนอีกด้วยค่ะ






ตอนนี้กำลังจัดงานพอดีใครไปเที่ยวญี่ปุ่นมาชมความงามของสวนริทสึรินพร้อมไฟประดับสวยๆ กันได้ เทศกาลจะมีถึงวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ค่ะ


แสงไฟในยามค่ำคืนช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นในค่ำคืนฤดูใบไม้ร่วงเสียจริง

ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ฤดูอะไร สวนริทสึรินก็งดงามเสมอ