BLOG
บทความ
สวัสดีค่ะ ชินะคะ
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2548 ชิได้เปิดบริษัทตอนที่อายุ 25 ปี ซึ่งตอนนั้นชิยังอยู่ในช่วงเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยหนึ่งในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2548 จนมาถึงวันนี้ก็ครบรอบ 17 ปีแล้วค่ะ
ใกล้ๆ บ้านที่อยู่ตอนนั้นมีพี่น้องที่เป็นนักกฏหมายและนักบัญชีคนไทยอยู่ พวกเขาได้ช่วยเหลือในการก่อตั้งบริษัทของชิเป็นอย่างมากเลยค่ะ ยังจำช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนเลย เอกสารภาษาไทยกองพะเนินเทินทึก เต็มไปด้วยคำศัพท์ที่ไม่เจอมาก่อน
คนที่พูดว่า “มาทำธุรกิจในต่างประเทศได้สุดยอดไปเลย” ก็มี แต่ว่าในตอนนั้นชิยังเป็นเพียงชาวต่างชาติที่ถือวีซ่านักเรียนนักศึกษา เพื่อที่ได้ทำงานอย่างถูกกฏหมาย หนทางเดียวที่จะทำได้ก็คือ ตั้งบริษัทของตัวเอง และก็ไม่มีหนทางอื่นที่จะทำงานได้เลยนอกจากจะได้ถือวีซ่านักธุรกิจและใบอนุญาตประกอบธุรกิจของบริษัทตัวเอง
ไม่ได้เป็นเพราะความมุมานะและทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า ทว่าเป็นเพราะตอนนั้นไม่มีทางเลือกอื่นต่างหากค่ะ
การได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทคนไทยสมัยที่เรียนปริญญาโท เหล่าหัวหน้าที่ช่วยสั่งสอนและหล่อหลอมชิในช่วงเวลาที่ได้ทำงานในองค์การระหว่างประเทศ แล้วได้เริ่มลงมือสร้างธุรกิจ หางาน ทำงานอย่างถูกกฏหมาย แต่งงาน คลอดลูก บริหารจัดการบริษัท และพัฒนาบุคลากร เพื่อตอบแทนสังคมแม้จะเป็นเพียงเล็กน้อย… อย่างไรก็ตามตอนนี้เรายังมีชีวิตอยู่เพื่อก้าวไปข้างหน้า มองไปยังวันถัดไป และมุ่งหน้าสู่อนาคต
ตั้งแต่ตั้งบริษัทมาจนถึงตอนนี้ก็เกิดเรื่องราวมากมายนับไม่ถ้วนในสังคมทั้งการเมือง ภัยธรรมชาติน้ำท่วมครั้งใหญ่ การสวรรคตของรัชกาลที่ 9 และโรคระบาด การพบเจอในรูปแบบต่างๆ ทั้งผู้คนมากมายที่ยังคงให้กำลังใจมาโดยตลอด ผู้คนที่ยังอยู่ด้วยกัน ผู้คนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
บางครั้งก็ได้ยินคำถามว่า “เคล็ดลับที่สามารถดำเนินธุรกิจมาได้ 17 ปีคืออะไร” ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจากนี้ไปจะได้ทำต่อไปอีกกี่ปี ตั้งแต่ตั้งบริษัทมาพอหันกลับมามองตอนนี้ก็คิดว่าอย่าง ‘ความสามารถในการอ่านเขียนภาษาไทยและอังกฤษก็ทำได้ดีพอๆ กับการสนทนาเลย’ ‘การมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมีเครือข่ายในไทยอย่างกว้างขวางก็ใช่’ บวกกับความพยายามที่ไม่เคยหมดไฟ แถมยังเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ของตัวเองก็ด้วย และโดยส่วนตัวรู้สึกว่าการทำงานมาเป็นเวลานานก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน
2 ปีกว่าแล้วที่เผชิญกับสถานการณ์โควิด แม้ในบางเวลาจิตใจจะเหนื่อยล้าบ้างก็ตาม แต่การมองไปยังพรุ่งนี้ เพื่ออนาคต ด้วยปณิธานอันแรงกล้า ความพยายามที่ดุจดั่งไฟที่ไม่เคยมอดลง แม้จะเพียงน้อยนิดก็อยากอุทิศตัวเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไปเช่นกันค่ะ