BLOG
บทความ
ทุกคนคงคุ้นเคยกับย่านเมืองเก่าของญี่ปุ่น ที่มักจะเป็นบรรยากาศของบ้านเรือนในสมัยเอโดะตั้งอยู่เรียงราย สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ที่มองเมื่อไหร่ก็จะสัมผัสได้ถึงความเป็นญี่ปุ่น
ในประเทศญี่ปุ่นตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็มักจะมีย่านเมืองเก่าแบบนี้ในทุกพื้นที่ แต่ละแห่งก็จะมีเสน่ห์และลักษณะเด่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็จะแอบซ่อนประวัติศาสตร์อยู่ในนั้นด้วยค่ะ
อย่างเช่น “ย่านเมืองเก่าทาคายามะ” บ้านเรือนเก่าแก่ที่ตั้งเรียงราย ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นร้านอาหาร ร้านค้า จุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลก แต่ทุกคนเคยสังเกตไหมคะ ว่าบ้านเรือนในย่านเมืองเก่าทาคายามะจะมีลักษณะเป็นโทนสีดำ ไม่เหมือนกับที่อื่นที่จะเป็นสีน้ำตาลของไม้ เรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นจุดเด่นและเสน่ห์ของที่นี่ค่ะ ซึ่งการที่บ้านเป็นสีดำแบบนี้ก็ได้ซ่อนประวัติศาสตร์เอาไว้เช่นกัน เมื่อในสมัยเอโดะที่นี่เป็นย่านของพ่อค้าร่ำรวย โดยบ้านเรือนแต่ละหลังได้สร้างมาจากวัสดุไม้คุณภาพอย่างดีเลยทีเดียว แต่ในตอนนั้นรัฐบาลได้อนุญาตให้ใช้ไม้สนในการก่อสร้างเท่านั้น ดังนั้นเหล่าพ่อค้าทั้งหลายจึงได้นำเอาเขม่าและสีย้อม มาทาบริเวณด้านนอกของบ้าน ทำให้ดูเหมือนว่าไม่ได้ใช้ไม้ราคาแพงและมีคุณภาพมากนัก เพื่อหลบหลีกการตรวจสอบจากรัฐบาลนั่นเองค่ะ
พอได้รู้ประวัติศาสตร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของสถานที่ที่เราไปเยือน การที่ได้สังเกตสิ่งรอบ ๆ ตัวไประหว่างที่เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยว ก็ดูจะทำให้ทริปท่องเที่ยวสนุกขึ้นและจดจำได้มากยิ่งขึ้นเลยว่าไหมคะ
วันนี้เลยจะมาแนะนำอีกหนึ่งย่านเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ เช่นเดียวกับเมืองทาคายามะเลย แต่ที่นี่จะตั้งอยู่ในเมืองมิโนะค่ะ
“ย่านเมืองเก่าอุดะสึ (Udatsu Wall Historical District / うだつの上がる町並み)”
ดูเผิน ๆ แล้วเมืองเก่าแห่งนี้ก็ดูเหมือนเมืองเก่าอื่น ๆ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกัน
แต่หากสังเกตดี ๆ แล้ว บริเวณชั้นสอง ส่วนต่อกันระหว่างบ้านแต่ละหลังจะมีกำแพงเล็ก ๆ ยื่นออกมาเล็กน้อย กั้นบ้านระหว่างหลังอยู่ หากไม่ได้คิดอะไรก็คงดูเหมือนการตกแต่งบ้านแบบทั่วไป แต่แท้จริงแล้วนี่คือประวัติศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ค่ะ ^^
อุดะสึ หมายถึง ลักษณะของบ้านที่มีกำแพงป้องกันไฟ โดยกำแพงที่เราเห็นเป็นการสร้างยกหลังคาให้สูงขึ้นหนึ่งระดับเพื่อป้องกันการรุกลามของไฟ วิธีนี้ถือเป็นวิธีการป้องกันภัยอันชาญฉลาดของคนในยุคก่อนค่ะ แต่ในการที่จะสร้างอุดะสึได้จะต้องใช้เงินพอสมควรเลยล่ะค่ะ ทำให้บ้านที่มีอุดะสึจะมีเฉพาะบ้านของคนรวยเท่านั้น ในอีกทางหนึ่งก็เป็นการแสดงออกถึงความร่ำรวยของแต่ละครอบครัว จากการสร้างและตกแต่งอุดะสึของบ้านตัวเองค่ะ และแน่นอนว่าย่านเมืองเก่าอุดะสึแห่งนี้เป็นย่านเมืองของพ่อค้าร่ำรวย เราจะได้เห็นถึงการสร้างอุดะสึที่แสดงถึงความร่ำรวยของพ่อค้าในเมืองแห่งนี้กัน
ใครที่มาเดินเที่ยวที่ย่านเมืองเก่าอุดะสึแห่งนี้ ก็อย่าลืมสังเกตอุดะสึของแต่ละบ้านกันนะคะ
นอกจากนี้ การที่อุดะสึจำเป็นต้องใช้เงินในการสร้าง ทำให้เกิดเป็นวลีหนึ่งในภาษาญี่ปุ่นที่นำคำว่า “อุดะสึ” มาใช้ คือวลีที่ว่า “うだつが上がらない” แปลตรงตัวหมายถึง ไม่มีอุดะสึหรือสร้างอุดะสึไม่ได้ ซึ่งจะมีความหมายในอีกทางหนึ่งว่า ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ดีหรือไม่สามารถเป็นไปได้อย่างที่หวัง นั่นเองค่ะ
ย่านเมืองเก่าอุดะสึ ตั้งอยู่ที่เมืองมิโนะ ซึ่งนอกจากจะสามารถมาเดินเล่นในเมืองเก่าได้แล้ว บริเวณใกล้เคียงก็ยังมีอาคารจัดแสดงโคมไฟกระดาษมิโนะวาชิ “Mino Washi Akari Art Hall (美濃和紙あかりアート館)” ซึ่งกระดาษมิโนะวาชิ คือกระดาษญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองมิโนะ จังหวัดกิฟุค่ะ เป็นกระดาษญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานถึง 1,300 ปี และเป็น 1 ใน 3 กระดาษญี่ปุ่นที่โด่งดังและคุณภาพดีที่สุดในประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเล่นในเมืองเก่าและแวะเข้ามาชมผลงานสวย ๆ จากกระดาษมิโนะวาชิกันได้
อีกทั้งหากใครเดินทางมาในช่วงเดือนตุลาคมล่ะก็ จะสามารถพบกับ “เทศกาล Mino Washi Akari Art Festival (美濃和紙あかりアート展)” งานเทศกาลในตอนกลางคืนที่จะรวบรวมโคมไฟกระดาษจากทั่วทั้งประเทศ มาจัดแสดงไลท์อัพบริเวณย่านเมืองเก่าอุดะสึ โดยผลงานทุกชิ้นที่นำมาจัดแสดงทำมาจากกระดาษมิโนะวาชิเท่านั้นค่ะ
มาดื่มด่ำประวัติศาสตร์และชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมและงานหัตถกรรมที่เมืองมิโนะกันนะคะ ^^