BLOG

ก่อนไปตามหาต้นอะชิตะบะ สามารถอ่านบทความย้อนหลังเกี่ยวกับเกาะโอชิมะ หมู่เกาะอิสุได้ที่นี่ค่ะ
(1) ทะเลทรายสีดำ ภูมิประเทศที่น่าทึ่งของเกาะโอชิมะ
(2) คุสะยะ เมนูท้องถิ่นที่ไม่ธรรมดาของเกาะนี้
(3) เบคโคซูชิ ซูชิท้องถิ่นที่ไม่ต้องจิ้มโชยุและวาซาบิก็ครบรส

＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝＝
ณ ร้านขายของชำบนเกาะโอชิมะ หมู่เกาะอิสุ ในมหานครโตเกียว ในตู้เย็นหลังเล็กที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องดื่มที่เราๆ รู้จัก ทั้งโคล่า น้ำเปล่า น้ำชา แต่ในเครื่องดื่มเหล่านั้นมีเครื่องดื่มกระป๋องหน้าตาน่าสนใจ รูปใบไม้ที่หน้าตาคล้ายกับขึ้นฉ่ายบนกระป๋องสีขาว ชื่อเครื่องดื่มก็น่าสนใจ ‘อะชิตะบะฉะ’ (明日葉茶)

อะชิตะ (明日) = พรุ่งนี้, บะ / ฮะ (葉) = ใบไม้, ฉะ (茶) = ชา ➡ ชาจากใบอะชิตะบะ ใบไม้วันพรุ่งนี้

แถมที่กระป๋องยังเขียนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของโตเกียวชิมะ หรือเกาะโตเกียวอีก… อย่างนี้มันต้องลอง


และแล้วมื้อเย็นก็มาถึง ณ ร้านอาหารเพียงไม่กี่แห่งบนเกาะที่เปิดในช่วงนั้น พวกเราได้สั่งของทอดไป

‘เราได้เจอกับใบอะชิตะบะอีกครั้ง! ในรูปแบบชุปแป้งทอด’


ผักชนิดนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับเกาะเป็นแน่ เมื่อได้ลองค้นหาดู โป๊ะเชะใช่เลย
พอได้ทำความรู้จักผักชนิดนี้ก็รู้สึกว่าเก็บไว้คนเดียวไม่ได้เลยค่ะ
ชื่ออะชิตะบะ ใบไม้วันพรุ่งนี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอยๆ แต่อธิบายความพิเศษของพืชชนิดนี้ได้ดีมากๆ

◤ ไปทำความรู้จัก “ อ ะ ชิ ต ะ บ ะ ” กันค่ะ ◢
อะชิตะบะ (アシタバ・明日葉) พืชท้องถิ่นของเกาะโอชิมะ ในหมู่เกาะอิสุ（伊豆大島）เป็นพืชในวงศ์ผักชี (Apiaceae) และเป็นไม้ยืนต้น ที่มาของชื่อก็มาจากการเติบโตของใบที่เก็บได้เรื่อยๆ กินได้ตลอด

(ภาพจาก https://www.yasainavi.com)

ถึงขนาดที่มีคำกล่าวที่ว่า “แม้ว่าวันนี้เก็บไปแล้ว วันพรุ่งนี้ก็จะแตกออกมาใหม่”
เรียกได้ว่าเป็นพืชที่มีพลังการใช้ชีวิตสูงมากเลยค่ะ

เกาะโอชิมะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะภูเขาไฟ อากาศอบอุ่นมีปริมาณน้ำฝนมากตลอดทั้งปี พื้นที่กว้างขวางดินสามารถกักเก็บน้ำในดินได้ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสภาพที่ต้นอะชิตะบะเติบโตได้เป็นอย่างดี

และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ พาร์ทเนอร์แสนดีค่อยช่วยเหลือเกื้อหนุนกัน คืออะไรนะ ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก… ♪

สิ่งนั้นก็คือต้น “ยาฉะบุจิ” (ヤシャブシ) หรือต้น Alnus firma (Japanese Green Alder) ต้นยาฉะบุจิเป็นต้นไม้ใหญ่ผลัดใบที่ชอบพื้นที่ชื้นๆ ชุ่มน้ำ ในฤดูร้อนร่มเงาของต้นยาฉะบุจิจะช่วยบังแสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงทำให้ต้นอะชิตะบะไม่เฉาแดดค่ะ ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงและหนาวต้นยาฉะบุจิจะผลัดใบเป็นปุ๋ยให้ต้นอะชิตะบะ แถมรากของต้นยาฉะบุจิยังมีแบคทีเรียที่มีประโยชน์ช่วยทำให้ดินบริเวณที่รากแผ่ออกไปนั้นได้รับประโยชน์ไปด้วย ดินจึงมีความอุดมสมบูรณ์มาก

อะชิตะบะมีประโยชน์มากมาย เพราะอุดมด้วยเบต้าแคโรทีนช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน โพแทสเซียมที่ช่วยลดความดันโลหิตสูง วิตามินเคที่ช่วยเรื่องเลือด ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็ว และบำรุงกระดูก

จากปัจจัยของดินและ “ต้นยาฉะบุจิ” คู่หูคนสำคัญ ทำให้ต้นอะชิตะบะเติบโตได้อย่างงดงามในแต่ละวัน

ต้นอะชิตะบะมีพลังในการเติบโตสูงงง เด็ดไป ก็งอกออกมาใหม่ เป็นพืชที่แข็งแกร่งพอควรเลยค่ะ
การเติบโตอย่างดีและไม่มีขีดจำกัดนั้นก็เพราะว่ามีพาร์ทเนอร์ที่ดี และคอยเกื้อกูลกันค่ะ

ธรรมชาติช่างมหัศจรรย์เสียจริงนะคะ วันนี้เหมือนได้เรียนรู้บางอย่างจากธรรมชาติเลยค่ะ

จริงไหมคะ? ^^