BLOG
บทความ
ถ้าพูดถึงเรื่องธรรมเนียมการถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ หลายคนคงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นใช่ไหมคะ ? เพราะอะไรกันนะ ?
สำหรับฉันแล้ว อาจเป็นเพราะว่าตอนเด็ก ๆ ชอบดูโดราเอมอน ก็เลยเห็นภาพและฉากที่โนบิตะวิ่งเข้าบ้านพลางสะบัดรองเท้าที่โถงหน้าบ้านและวิ่งไปหาโดราเอมอนบ่อย ๆ พอโตขึ้นมาหน่อยก็ชอบดูรายการที่พาไปชมบ้านสวย ๆ ของคนญี่ปุ่นก็เลยเห็นโถงหรือบริเวณที่ไว้สำหรับถอดและเปลี่ยนรองเท้าบ่อย ๆ ค่ะ
ถึงแม้จะคุ้นเคยกับธรรมเนียมการถอดและเปลี่ยนรองเท้าของคนญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่ธรรมเนียมการถอดรองเท้าและเปลี่ยนรองเท้านี้เองกลับเป็นสิ่งที่ทำให้การเที่ยวฟุกุชิมะของฉันในครั้งนี้มีเรื่องให้ตื่นเต้น !
การถอดและเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้านเป็นเรื่องที่พวกเราคุ้นเคยค่ะ แต่การถอดและเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญต่าง ๆ นั้น … ถือว่าเป็นสิ่งใหม่สำหรับฉัน ส่วนเหตุที่ทำให้สิ่งใหม่นี้มีความน่าตื่นเต้นก็คือ “รองเท้าแตะ” สำหรับเปลี่ยนเพื่อเดินภายในสถานที่นั้น ๆ ค่ะ 🩴
ใช่ค่ะ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ให้ฉันตื่นเต้นและรอคอยการไปเยือนสถานที่ถัดไป เพราะฉันจะคอยลุ้นว่าสถานที่ถัดไปจะมีรองเท้าให้เปลี่ยนไหมนะ แล้วถ้ามีจะเป็นรองเท้าแบบไหนนะ
สถานที่แรกที่ฉันได้พบกับความประหลาดใจที่มาในรูปแบบของรองเท้าแตะนี้คือ “อาคารที่ว่าการเก่ามินามิไอสึ” (The Old Minami Aizu Government Office) อาคารสไตล์ตะวันตกที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1885 อีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดฟุกุชิมะ
เมื่อชมความงามของสถาปัตยกรรมภายนอกตัวอาคารแล้วก็ถึงเวลาเข้าไปชมภายใน แต่ก่อนเดินเข้าไปในตัวอาคารฉันกลับถูกชั้นวางรองเท้าพร้อมรองเท้าสีน้ำตาลที่เรียงรายต้อนรับนักท่องเที่ยวสะกดเอาไว้ เป็นรองเท้าแบบที่ฉันไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน…
“รองเท้าสวยจัง” ฉันคิดในใจ
รองเท้าที่มีลักษณะเหมือนรองเท้าแตะ แต่สวยเกินกว่าจะเรียกว่ารองเท้าแตะ แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าควรเรียกว่าอะไรดี ด้วยวัสดุหุ้มตัวรองเท้าที่คล้ายหนังสีน้ำตาล ทำให้ดูมีความโบราณเหมาะกับสถานที่แบบนี้เป็นอย่างยิ่ง
เปลี่ยนรองเท้าแล้ว
ซื้อบัตรเข้าชมแล้ว
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเราก็เริ่มการสำรวจกันเลย!
แม้ใจพร้อม กายพร้อม แต่ดูเหมือนว่ารองเท้าจะไม่พร้อมไปกับเราค่ะ…
ฉันพบว่าการพารองเท้าแตะคู่สวยนี้ไปพร้อมกับเท้าและจังหวะการเดินของเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…
ฉันไม่เคยใส่รองเท้าที่เดินยากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต และฉันก็เริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้สมควรที่จะถูกเรียกว่า “รองเท้า” ไหมด้วยซ้ำ 😅
รองเท้าที่ทรงดูสวยและน่าจะใส่พอดีเท้า แต่พอลองใส่และเริ่มก้าวเดินกลับพบว่าเราน่าจะไปด้วยกันไม่รอด เพราะรองเท้านั้นอยู่ตรงข้ามกับคำว่า “ใส่พอดี” อย่างสุดขั้วเลย ไม่มีส่วนไหนของรองเท้าที่ยึดเหนี่ยวกับเท้าเลย การเดินด้วยรองเท้านี้ที่ต้องใช้ความสามารถในการบังคับเท้าขั้นสูงเพื่อนำพารองเท้าให้ไปด้วยกันกับเท้าของเราในทุกย่างก้าวนั้นจึงดูเหมือนจะเป็นภาระมากกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ฉัน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่มีตัวเลือกและจำใจเดินหน้าไปพร้อมกับภาระอันสวยงามนี้ด้วยความคิดว่าฉันอาจแค่ยังไม่ชินกับมันเท่านั้น ฉันไม่อยากรีบตัดสินและกล่าวหารองเท้าคู่สวยนี้เลย…
สภาพของฉันในตอนนั้นไม่ต่างจากนกเพนกวินเลยค่ะ นอกจากมือและตัวที่แข็งด้วยความหนาวแล้ว ก็มีเท้าที่พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเดินแบบกึ่งลากเท้าเพื่อนำพารองเท้าไปด้วย
บททดสอบของฉันและรองเท้าแตะคู่สวยดูเหมือนจะยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อเดินไปด้วยกันบนเส้นทางอันราบเรียบได้สักพักหนึ่งและได้เรียนรู้แง่มุมต่าง ๆ ของรองเท้า รวมไปถึงปรับตัวเพื่อให้เดินไปด้วยกันได้มาพอสมควรแล้วนั้น เราก็มาเจอกับบททดสอบถัดไป
การเดินขึ้นบันไดด้วยรองเท้าแตะคู่สวยค่ะ 😅
แต่จากที่ประเมินสถานการณ์และบททดสอบที่อยู่เบื้องหน้าฉันแล้วก็พบว่าไม่ใช่บันไดธรรมดาทั่วไปด้วยค่ะ แต่เป็นบันไดที่ดูชันมากจนหน้าผาเรียกน้องเลยก็ว่าได้ค่ะ 😭
หายใจเข้าลึก ๆ
บังคับใจให้พร้อม แล้วก็… ลุย!
ทุกก้าวย่างในการขึ้นบันไดนี้ผ่านมาได้ด้วยกำลังภายในจากการจิกและเกร็งเท้าขั้นสูง
เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแล้วหันกลับไปมองเส้นทางที่ฉันเพิ่งผ่านพ้นมา ฉันถึงกับปรบมือให้ตัวเองเบา ๆ ในใจ “เก่งมาก เธอผ่านมันมาได้ ! ” 😊
มาถึงตรงนี้การเดินด้วยรองเท้าแตะคู่สวยก็ยังคงลำบากเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือฉันที่เข้าใจมากขึ้นว่าถ้าฉันจะพารองเท้านี้ไปด้วยฉันต้องจิกและคลายนิ้วเท้าให้ถูกจังหวะและพอดี หรือว่ามนุษย์เราควรจะมีศาสตร์และวิชาว่าด้วยเรื่องการเดินด้วยรองเท้าแตะแบบญี่ปุ่นกันนะ
จบวันด้วยการเจอรองเท้าคู่ใหม่ที่ที่พัก แต่โชคดีที่รองเท้านี้เดินง่ายมาก ขอบคุณพระเจ้า
และสวัสดีตอนบ่ายของวันใหม่ด้วยการพบเจอกับสิ่งคุ้นตาแต่ยากที่จะคุ้นเคย
รองเท้าแตะคู่สวยนั่นเอง ทรงสวยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนสีใหม่ 😏
สถานที่เกิดเหตุในรอบนี้คือ “โรงเรียนประถมคุอิมารุโช” (Kuimarusho) อดีตโรงเรียนประถมของหมู่บ้านอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี ที่มีพื้นที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการนั่นเอง
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับคู่หูของเท้าทั้งสองก่อนออกเดินทางครั้งใหม่ “ครั้งนี้ต้องดีขึ้นกว่าครั้งแรกอย่างแน่นอน” ฉันคิดในใจอย่างเชื่อมั่น
ดูเหมือนอะไร ๆ ก็ดีขึ้นจากครั้งที่แล้วค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มากนักก็ตาม อาจเป็นเพราะฉันที่เริ่มคุ้นเคยกับรองเท้าคู่สวย และอาจเป็นเพราะฉันที่ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องรองเท้าและหันไปสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น เช่น…
ความสวยงามของตัวอาคาร
ข้าวของเครื่องใช้
และบรรยากาศเก่า ๆ ของโรงเรียนสมัยก่อน
และอาจเป็นเพราะฉันที่ใส่เสื้อหนาขึ้นเพื่อให้ตัวไม่แข็งเป็นนกเพนกวินด้วยเช่นกัน 😂🐧
แม้การเดินไปกับรองเท้าแตะคู่สวยนี้จะลำบากและดูทุลักทุเลมากถึงมากที่สุด แต่ไม่ใช่ประสบการณ์ที่เป็นความทรงจำอันเลวร้าย สำหรับฉันแล้วนี่เป็นประสบการณ์ที่ดีและสร้างสีสันให้กับการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ของฉันเลยค่ะ ขอบคุณนะรองเท้าคู่สวยที่ให้เกียรติมาเดินด้วยกัน 💓
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
สำหรับใครที่อยากไปลองประสบการณ์เดินกับรองเท้าแตะคู่สวยแบบฉันละก็ ตามที่อยู่ด้านล่างนี้ไปกันได้เลยค่ะ 👇🏻
อาคารที่ว่าการเก่ามินามิไอสึ (The Old Minami Aizu Government Office)
https://maps.app.goo.gl/aG4dVfksqd15Zz3o9
https://www.aizu-concierge.com/spot/1274/
ที่พัก Yunokami Onsen Yuki no Sato Shisen
https://maps.app.goo.gl/SMm5aKN1UUfkkUKw7
https://www.aizu-sisen.com/
โรงเรียนประถมคุอิมารุโช (Kuimarusho)
https://maps.app.goo.gl/sGzd2CUbL4xHfbKD7