BLOG

บทความ

ปลดล็อคสกิลหูทองคํากับ Mika Nakashima Premium Live Tour 2023

ปลดล็อคสกิลหูทองคํากับ Mika Nakashima Premium Live Tour 2023

เปิดมาปี 2023 ใครจะไปคิดว่าจะได้ดูคอนเสิร์ตของศิลปิน ตัวแม่ ตัวมัม ตัวมาร์เธอ ตัวมารดา ตัวสูตินารี แห่งวงการเพลงญี่ปุ่น!


Mika Nakashima ชื่อนี้ที่ใครที่ชอบ J-Pop J-Rock J-Movie J-Drama ไม่มีทางไม่รู้จักแน่นอนค่ะ

ถ้าย้อนไปสมัยวัยละอ่อนกว่านี้ไปมากโข ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว สมัยนิตยสาร J-SPY กำลังระบาด สมัยที่ยังมีรายการ ITV Asian Series Fanclub ที่ต้องเฝ้าหน้าจอรอดู 23.00 – 24.00 น. สมัยที่ต้องมาแย่งรีโมท (ยังดีที่พอมีรีโมท) ตอน 9.00 น. เพื่อดู Gokuzen… ก่อนที่วัฒนธรรมบันเทิงของเกาหลีจะเข้ามาครองตลาดในไทย วงการบันเทิงญี่ปุ่นทั้งซีรีส์ หนัง เพลง ได้รับความนิยมมากๆๆๆ ((ก.ล้านตัว))

เกริ่นมาซะยาว…และยังมีต่อ…
ในตอนนั้นหนังที่สร้างมาจากการ์ตูน ต่างก็ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นอยากมาก และเรื่องที่ทุกคนรู้จักอย่าง NANA มิตรภาพของคนที่ชื่อเดียวกัน เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูน ถ้าจะถามว่าเนื้อเรื่องเป็นอย่างไรก็คงต้องบอกว่าจะไม่ได้ แต่ถ้ากลิ่นอายของเรื่องนี้แน่นอนว่ายังคงตราตรึง ความฝัน ความรัก และมิตรภาพ รวมถึงเพลงประกอบที่ยังคงแจ่มชัด ตัวละครของนานะเท่ กับนานะหวาน นานะเท่ที่เป็นนักร้องนำวงดนตรีร็อก อื้อหือ อย่างเท่เลยค่ะ เป็นตัวละครที่เป็นอมตะเสียจริง

พอได้ไปรู้เบื้องหลังยิ่งประทับใจ เพราะนานะเท่ที่ร็อกสุดๆ นั้นแท้จริงแล้วเป็นนักร้องเพลงบัลลาด!

เผลอคิดไปนานว่าพี่เขาเป็นร็อกเกอร์สาว ^^;
การแสดงของพี่เขาประสบความสำเร็จมากๆ เลยที่ทำให้เราเชื่อได้

และแล้วในคืนหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากพี่ชิ (เจ้านายผู้ประทานโชคนี้มาให้) ว่าไปดูคอนเสิร์ตไม่ได้ เลยให้ไปแทน

บุญหล่นทับดังตุ๊บแท้ๆ

โชคชะตาที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น การดูคอนเสิร์ตศิลปินญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก
\ Mika Nakashima Premium Live Tour 2023 /

ระหว่างที่นั่งรถไฟไปสถานที่จัดงาน ถ้าไม่ได้มาดูคอนเสิร์ตเอง ดูเพียงผู้คนบนรถไฟหรือผู้คนที่สถานีก็แทบไม่รู้ว่ามีคอนเสิร์ต ทุกอย่างดูปกติ เรียบง่ายไปเสียหมด ปกติอาจจะเห็นแฟนคลับแต่งตัว หรือมีอุปกรณ์ให้เห็นบ้าง



เมื่อไปถึงที่จัดงาน เห็นเขาเริ่มตั้งแถว ก็นึกว่าตั้งแถวเขาคอนเสียแล้ว ทว่าเป็นเพียงต่อแถวเพื่อเข้าไปยังพื้นที่หน้าประตูเข้าคอนเสิร์ต


ผู้คนที่มาชมมีหลากหลาย ทุกเพศทุกวัยจริงๆ ไม่ใช่เพียงวัยรุ่นหรือวัยกลางคนเท่านั้น

บางคนก็แต่งตัวจัดเต็มเสื้อผ้าหน้าผมพร้อม หากดูไม่ดีนึกว่าศิลปินมาเอง
บางคนก็แต่งตัวสบายๆ ปล่อยตัวปล่อยใจ ผ่อนคลายไปกับเสียงเพลง


ด้านหน้าทางเข้ามีโปสเตอร์ขนาด A4 ที่จะหยิบกลับไปเท่าไหร่ก็ได้ พร้อมสตาฟที่ยืนฉีกหางตั๋ว
เดินเข้าไปอีกหน่อยจะเจอโต๊ะเล็กๆ จำหน่าย CD Album ของคุณมิกะ
เขยิบเข้าไปด้านในอีกนิดหน่อยก็จะเจอกับจุดจำหน่าย Official Goods สินค้าหน้าคอน


ทุกอย่างของงานดูเรียบง่ายไปหมด ไม่อู้ฟู่เท่าที่คิดไว้ และกลับชอบอย่างน่าประหลาดใจ


เมื่อถึงเวลา 18.30 น. ไฟใน Hall เริ่มรี่ลง ทุกอย่างเงียบลงฉับพลัน เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามา พร้อมเสียงปรบมือ
เปียโนเป็นตัวชูโรง ท่วงทำนองที่ค่อยเดินทางมายังผู้ฟัง

อ่า… ทำนองนี้มันช่างคุ้นหู…

“Hatsukoi” (初恋)น่าแปลกที่เพลงที่ไม่ได้ฟังมานานนับ 10 ปี เมื่อได้ยินอีกครั้งก็จำทำนอง คำร้องได้ ทั้งๆ ที่ผ่านมานานขนาดนั้น เสียงคุณมิกะที่ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ทั้งนั้น เหมือนกลืนแผ่นซีดีลงไป ไม่สิ ส่วนตัวคิดว่าเสียงร้องสดมีสีสันและลูกเล่นเยอะกว่าในแผ่นซีดีเยอะเลย

ช่างเป็นบุญหูเสียจริงๆ

ฮอลมีขนาดกำลังดีไม่ใหญ่มากให้อารมณ์แบบหอประชุมมากกว่า เสียงที่ได้ยินทั้งชัดเจนและแทรกซึมเข้าไปได้แทบทุกอณูในรูหู

งานนี้ไม่ใช่คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่อัดแน่นด้วยแสงสีเสียงโชว์ตระกาลตา เป็นคอนเสิร์ตที่น้อยแต่มาก เครื่องดนตรีมีเพียง 2 ชิ้น เปียโนและเครื่องสี (ไม่แน่ใจว่าคือเชลโล่ วีโอล่า หรือดับเบิลเบสกันแน่ 😉)


เสียงเพราะๆ และท่วงท่าของคุณมิกะ ได้ถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมา เหมือนได้โบยบินอย่างอิสระ
ทุกอย่างดูลงตัวกลมกล่อมไปหมด สมกับชื่องาน Mika Nakashima Premium Live Tour 2023

เดิมทีงานนี้จัดขึ้นสำหรับเหล่า Official Fanclub มีหลายเสียงเรียกร้องว่าอยากให้จัด และคุณมิกะเองก็อยากที่จะมีโอกาสพูดคุย รับฟังเสียงของเหล่าแฟนๆ งานนี้จึงเกิดขึ้นมา

ช่วงโควิดคอนเสิร์ตกลายเป็นสิ่งต้องห้าม เงื่อนไขต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ห้ามกรี๊ด ห้ามพูด บ้างก็ทดแทนได้ด้วยคอนเสิร์ตออนไลน์ ถ้าให้เทียบกันแล้วการไปดูแบบสดๆ ย่อมดีกว่า

งานนี้มีช่วงที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ส่งเสียง เล่าถึงทุกข์สุขที่ได้เจอ จะปรึกษาก็ได้ หรือใครอยากจะตะโกนบอกรักคุณมิกะก็ย่อมได้ค่ะ ได้บรรยากาศเหมือนมาคุยกับเพื่อนเลยค่ะ

แม้เราไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของคุณมิกะ แต่การที่ได้มาดูการแสดงในครั้งนี้ทำให้ตกหลุมรักศิลปินคนนี้ไปเสียแล้ว
ตำนานก็คือตำนานจริงๆ ค่ะ

หลังจากงานเลิก ความรู้สึกตกค้างหลังคอนเสิร์ตก็ยังคงดำเนินต่อไป
คืนนั้นก็ได้แต่ฟัง playlist ของคุณมิกะ วนไปเรื่อยๆ
ถ้านึกถึงช่วงเวลานั้นเพลง Hatsukoi คงขึ้นมาเป็น BGM ทันที

-ศุกร์สวัสดีค่ะ-