BLOG

บทความ

Setouchi Triennale ศิลปะในอ้อมกอดทะเลแห่งความหวัง

Setouchi Triennale ศิลปะในอ้อมกอดทะเลแห่งความหวัง

ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ว่าเราอยู่ร่วมกับโควิด-19 มายาวนานถึงเกือบ 3 ปีเสียแล้ว ช่วงนี้หลายๆ ประเทศก็เริ่มเปิดให้ชาวต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวโดยลดเงื่อนไขต่างๆ ให้เรียบง่ายและใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ผู้คนก็เริ่มปรับตัวเพื่อที่จะอยู่ร่วมกับมันให้ได้ เริ่มออกเดินทางเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ อีกครั้ง

กลิ่นในเครื่องบินที่คิดถึง เสียงประกาศต่างๆ แค่ได้เข้าไปกดดูในเว็บจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงไม่น้อยเลยล่ะค่ะ นี่สินะความรู้สึกที่หายไปตั้งแต่ปี 2019 เหมือนหมึกบนหน้ากระดาษที่กำลังจางลงแล้วจู่ๆ ก็โดนเขียนทับอีกครั้งให้กลับมาแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น

การอยู่กับโควิดบางครั้งก็ทำให้เราเฉื่อยช้าลง บ้างก็ขยันขึ้นได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ อยู่กับมันจนชินไป เพื่อกระตุ้นให้พลังสูบฉีดอีกครั้งการหวลย้อนมองอดีตก็เป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถมอบพลังให้ตัวเราได้เช่นกัน เมื่อมองย้อนไปในปี 2019 ถือว่าเป็นปีที่เดินทางบ่อยมากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เป็นช่วงที่เหนื่อยแต่ก็สนุกมาก มอบพลังให้เหลือล้นเลยล่ะค่ะ

ประจวบเหมาะที่ปีนี้ครบรอบการจัดงานเทศกาลศิลปะนานาชาติเซโตะอุจิ (Setouchi Triennale) ที่จะจัดขึ้นทุกๆ 3 ปี ซึ่งในปีนี้ก็จัดเช่นเดียวกัน และได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เลยตระหนักได้ว่า อ่า…นี่เราอยู่กับมันมาเกือบ 3 ปีแล้วหรือนี้



ย้อนไปในปี 2019 ซึ่งตรงกับการจัดเทศกาลศิลปะนานาชาติเซโตะอุจิเช่นกัน ได้รับโอกาสจากพี่ชิให้ติดตามทีมนิตยสารไปเก็บข้อมูลของเทศกาลเพื่อแนะนำให้คนไทยได้รู้จักเทศกาลนี้มากยิ่งขึ้นค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่า การชมงานศิลปะเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยาก ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องเลย… ผลงานศิลปะที่จัดแสดงที่เทศกาลนี้อาจจะช่วยเปลี่ยนความคิดนั้นของคุณได้นะคะ เมื่อได้มาชมจริงๆ กลับเข้าถึงได้ง่าย ลึกซึ้ง และกินใจ เป็นการดื่มด่ำกับงานศิลปะที่แท้จริงเลยค่ะ



(Artwork: Love in Shodoshima / Artist: Wang Wen Chih)

(Artwork: Love in Shodoshima / Artist: Wang Wen Chih)

(Artwork: Beyond the Border – Wave / Artist: Lin Shuen Long)

(Artwork: Beyond the Borders – Tide / Artist: Lin Shuen Long)

ก่อนอื่นขอแนะนำรู้จักกับเทศกาลศิลปะนานาชาติ “Setouchi Triennale” ผลงานศิลปะจะจัดแสดงในเกาะต่างๆ ในพื้นที่ทะเลในเซโตะและท่าเรือ ซึ่งกินพื้นที่ของ 2 จังหวัดคือ คางาวะและโอคายามะ เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2010 หากรวมปีนี้เข้าไปก็นับเป็นครั้งที่ 5 แล้วค่ะ


© Setouchi Triennale Executive Committee
(https://setouchi-artfest.jp/en/)

จากจุดเล็กๆ ที่อยากดึงวัยหนุ่มสาว เยาวชนคนรุ่นใหม่กลับมายังพื้นที่ถิ่นฐานบ้านเกิด จนกลายเป็นเทศกาลศิลปะนานาชาติที่ผู้รักและชื่นชอบงานศิลปะเฝ้าคอยนับวันเวลาเพื่อที่จะได้มาเยือนสักครั้ง เหมือนหยดหมึกที่หยดลงจากจุดเล็กๆ ค่อยๆ แผ่ขยายออกไปอย่างน่าชม

จังหวัดคางาวะ (Kagawa) เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น พื้นที่ตอนบนของจังหวัดติดกับทะเลในเซโตะ เกาะเล็กเกาะน้อยลอยอยู่ในทะเลในเซโตะ บางเกาะในอดีตเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์ อุตสาหกรรม และวัฒนธรรม เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างสามารถทดแทนด้วยอย่างอื่นจนทำให้สิ่งนั้นค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำ สิ่งที่เคยรุ่งโรจน์ในยุคหนึ่ง กลับเสื่อมสลายในอีกยุคหนึ่ง




ย้อนไปในสมัยก่อนพื้นที่นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะเส้นทางที่ขนส่งสินค้า เส้นทางเดินเรือทำให้เกิดส่งต่อวัฒนธรรมไปยังภูมิภาคคันไซ หรือโอซาก้าที่คนไทยคุ้นเคย ในช่วงศริสต์ทศวรรษที่ 1960 เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่เติบโตเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ที่มีความสำคัญทางด้านอุตสาหกรรมเพียงเท่านั้น ทำให้ย่านทะเลในเซโตะที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีประวัติศาสตร์แสนยาวนาน กลับเงียบเหงาและซบเซาลง ความมีชีวิตชีวาของเกาะเหล่านี้ในทะเลในเซโตะค่อยๆ เลือนหายไป


จนกระทั่งในปี 2010 ศิลปะได้เข้ามาทักทายและเริ่มเป็นส่วนหนึ่งของท้องทะเลในเซโตะและชาวเกาะผู้อยู่อาศัยดั้งเดิม ศิลปะได้เชื่อมคนบนเกาะและคนต่างถิ่นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างแนบเนียน ศิลปะได้ทำลายอาณาเขตที่ถูกขีดไว้ วัฒนธรรมดั้งเดิม ประวัติศาสตร์ของทะเลในเซโตะและสิ่งใหม่ได้ไหลมารวมกันจนเกิดป็นสายสัมพันธ์แห่งท้องทะเล ศิลปินได้สร้างงานศิลปะท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ผู้ที่มาชมงานศิลปะจะได้ชมผลงานท่ามกลางธรรมชาติ ท้องทะเลสีครามของทะเลในเซโตะ ซึบซับกับความหมายของงานศิลปะนั้นๆ



(Artwork: The Naoshima Plan “The water” / Artist: Hiroshi Sambuichi)
https://setouchi-artfest.jp/en/artworks-artists/artworks/naoshima/276.html

ปัจจุบันเรียกได้ว่าศิลปะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้านในย่านนี้เสียแล้ว และยังทำให้วัยหนุ่มสาวกลับมาพัฒนาบ้านเกิดอีกด้วย สีสัน ความมีชีวิตชีวา และรอยยิ้มของผู้เฒ่าผู้แก่ได้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง




เสน่ห์อีกอย่างของเทศกาลนี้คือ การนั่งเรือชมผลงานทีละเกาะ ปล่อยใจไปกับสายลมและท้องทะเลอันกว้างใหญ่ของทะเลในเซโตะ “sea of hope” ทะเลแห่งความหวังทั้งของคนบนเกาะและผู้มาเยือน








ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 5 ของการจัดเทศกาล ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ เลยค่ะ จากสิ่งที่คาดหวังได้กลายเป็นจริง พื้นที่นี้สามารถมอบความหวังให้กับคนในพื้นที่ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และพื้นที่อื่นๆ ได้ดูเป็นแบบอย่าง รวมถึงมอบพลังให้กับผู้คนที่ได้มาชมงานศิลปะ สมกับเป็น “sea of hope” เสียจริงค่ะ


นอกจากช่วงเทศกาลแล้วที่คางาวะก็มีงานศิลปะถาวรให้ได้ชมตามจุดต่างๆ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะให้เข้าไปชมกันอีกด้วยค่ะ

(Artwork: Red Pumpkin / Artist: YAYOI KUSAMA)
https://setouchi-artfest.jp/en/artworks-artists/artworks/naoshima/338.html

(Artwork: Naoshima Pavilion / Artist: Sou Fujimoto)
https://setouchi-artfest.jp/en/artworks-artists/artworks/naoshima/99.html

(Artwork: Naoshima Bath “I❤湯 (I Love YU)” / Artist: Shinro Ohtake)
https://setouchi-artfest.jp/en/artworks-artists/artworks/naoshima/2.html

(Artwork: Art House Project “Haisha” / Artist: Shinro Ohtake)
https://setouchi-artfest.jp/en/artworks-artists/artworks/naoshima/10.html

(Artwork: Teshima Art Museum / Artist: Rei Naito, Ryue Nishizawa)
https://setouchi-artfest.jp/en/artworks-artists/artworks/teshima/17.html

สำหรับงานในช่วงฤดูใบไม้ผลิเราอาจจะไปไม่ทัน หวังว่าอีก 2 ฤดูที่เหลือเราจะสามารถเดินทางไปชมได้ด้วยตาและสัมผัสด้วยใจของพวกเราเองนะคะ

= = = = = = = = = = = = = = = = = == = = =
◢ ฤดูใบไม้ผลิ: 14 เมษายน – 18 พฤษภาคม 2565 (รวม 35 วัน)
◢ ฤดร้อน: 5 สิงหาคม – 4 กันยายน 2565 (รวม 31 วัน)
◢ ฤดูใบไม้ร่วง: 29 กันยายน – 6 พฤศจิกายน 2565 (รวม 39 วัน)
= = = = = = = = = = = = = = = = = == = = =
🌐รายละเอียดเพิ่มเติม: https://setouchi-artfest.jp/en/